ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.
นายเอกชัย เกษมสุขธวัช ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายสุภาพ ศิริ ผอ. ปปท. เขต 6
พ.ต.ท.สราวุธ คำเหลือง ผอ. กองอำนวยการต่อต้านการทุจริต พ.ต.ต.จักรกฤษณ์ ประจันพล
ผอ. กลุ่มงานอำนวยการด้านคุ้มครองพยาน และ ร.ท.กานต์ ทับประยูร รักษาราชการแทน ผอ. กลุ่มงานอำนวยการด้านการข่าว
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 เจ้าหน้าที่กองอำนวยการต่อต้านการทุจริต นำโดย นายโสภณ
ธีระวงศ์ภิญโญ นายภูเบศ แท่นนิล นายปิยพนธ์ เปรมโยธิน นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ และเจ้าหน้าที่ ปปท. เขต 6 นายพิทยา ช้างงาม นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นำโดย พ.ต.ต.ประสิทธิ์ อุบลกาญจน์ สว.กก.สส.ปป.บก.ตม. 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ปป.บก.ตม. 2 จับกุม นางเชนณิชา (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ที่ จ. 3/2566 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 4 และมาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 เมื่อครั้งผู้ต้องหาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ (ลูกจ้างประจำ) องค์การบริหารส่วนตำบลนาป่า อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ อาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่รับผิดชอบ เก็บเงินค่าขยะมูลฝอยตามบ้านเรือนของราษฎร หลังจากเก็บเงินดังกล่าวแล้วไม่นำเงินส่งเก็บตามระเบียบ เบียดบังเอาเงินดังกล่าวไปเป็นของตนเอง และแก้ไขวันที่และเดือนในต้นขั้วสำเนาใบเสร็จ เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย เหตุเกิดที่องค์การบริหารส่วนตำบลนาป่า อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ประมาณเดือนกรกฎาคม – กันยายน 2555
ทั้งนี้จากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ และจะเดินทางกลับประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อตรวจสอบและเข้าทำการจับกุมที่บริเวณห้องโถงผู้โดยสาร ฝ่าย ตม. ขาเข้า ชั้น 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่
18 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 00.15 น. เพื่อนำตัวผู้ต้องหาส่งต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”