จากกรณี นายวุฒิโรจน์ อริยเดชอนันต์ หรือเสี่ยหมู นักธุรกิจพัฒนาที่ดิน ชาวปราจีนบุรี นอนกลางถนนพหลโยธิน หน้ากองปราบปราม ขวางรถที่สัญจร เพื่อเรียกร้องความสนใจต่อสื่อมวลชนที่มาติดตามการนำเสนอข่าวที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก่อนจะลุกขึ้นมาและยกมือไหว้ขอโทษประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน ระบุว่าต้องทำเช่นนี้เนื่องจากที่ดินทำตลาดของตนที่จังหวัดปราจีนบุรี ถูกนายทุนคนจีนร่วมกับตำรวจระดับสูงยึดไป
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 ธ.ค.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ โกษะโยธิน พร้อมด้วย นายพสิษฐ์ คำชัย นายโกวิท ภัทรพิญโญยิ่ง 2 ทนายความตัวแทนผู้เสียหายคู่กรณีนายวุฒิโรจน์ อริยเดชอนันต์ หรือเสี่ยหมู ร้องต่อสื่อมวลชนถึงกรณีดังกล่าว
พ.ต.อ. ขจรศักดิ์ โกษะโยธิน กล่าวว่า ตนได้ซื้อที่ดินมาจากโจทย์ทั้ง 4 โดยกรมบังคับคดีเป็นผู้มอบที่ดิน ภายหลังจากที่คุณวุฒิโรจน์ ถูกฟ้องขับไล่จนได้ทำการย้ายออกจากที่ดินไปเรียบร้อย จากนั้นคุณวุฒิโรจน์ได้มาทำการแจ้งความจะดำเนินคดีต่างๆกับตนซึ่งตนมองว่าตนนั้นไม่ได้ทำความผิดอะไร จึงได้มาชี้แจงความบริสุทธิ์พร้อมหลักฐานคำสั่งศาลและสอบถามเรื่องการดำเนินคดีที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบังคับการตำรวจปราบปราม
ด้าน นายพสิษฐ์ คำชัย ทนายผู้กล่าวว่า ตนอยากขอแก้ข่าวเพื่อผู้เสียหายที่ถูกกล่าวหาว่ามีนายทุนจีนเทาเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งไม่มีมูลความจริง เรื่องจากนายทุนรายนั้นเป็นชาวไทยเชื้อสายจีนที่ทำธุรกิจในไทยมาเป็นเวลากว่า 40 ปีจนประสบความสำเร็จซึ่งการซื้อที่ดินที่มีส่วนพัวพันนี้ก็ซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายในราคา 40 ล้านบาทโดยมีการจดทะเบียนที่กรมที่ดินโดยถูกต้อง ซึ่งเสี่ยหมูไม่มีส่วนร่วมในที่ดินนี้ แต่มีการพาดพิงว่ามีการมอบเงิน 2 ล้านบาทให้ภรรยาอัยการซึ่งไม่เป็นความจริงเนื่องจากอัยการนั้นไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ อีกทั้งเสี่ยหมูซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องการฉ้อโกงทางธนาคารกสิกรเพียงรายเดียวยังคงลอยนวลอยู่ โดยหลังจากนี้เตรียมรวบรวมข้อมูลเพื่อแจ้งความกลับทางอาญาและแพ่งต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ แถลงข่าวอยู่ ปรากฎว่า เสี่ยหมู วุฒิโรจน์ คู่กรณี ได้โผล่มาพร้อมให้ข้อมูลโต้เถียงคูกรณีจนเกือบวางมวยกัน ดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันไม่ให้ทั้งสองฝ่ายลงไม้ลงมือปะทะกัน เพียงแค่ใช้ถ้อยคำโต้ตอบกันไปมา