วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
หน้าแรกการเมืองวัชระ ร้อง วันนอร์ และ ป.ป.ช.สอบ วอนอย่าประวิงเวลา

Related Posts

วัชระ ร้อง วันนอร์ และ ป.ป.ช.สอบ วอนอย่าประวิงเวลา

“…วัชระ ร้อง วันนอร์ และ ป.ป.ช.สอบสวนจริยธรรมร้ายแรง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ รับรถเบนซ์ 2 คัน และแคชเชียร์เช็ค 25 ล้านบาท ป.ป.ช.สอบสวนคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว หลังจากตนยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.สอบนานกว่า 1 ปี 7 เดือนแล้ว วอนประธาน ป.ป.ช.อย่าประวิงการสอบสวน…”

เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยรายวัชระ ระบุว่า

ข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามสื่อมวลชนและเฟสบุ๊คของ นายเรืองไกร “เรืองไกร นกมรจ” นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้รับรถเบนซ์ทั้งสองคันขณะเป็นโฆษกกรรมาธิการงบประมาณ เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔ และ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ ตามสำเนาภาพจากเฟสบุ๊ค “เรืองไกร นกมรจ” ที่แนบมานี้ (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑) จึงถือว่าเป็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” และปัจจุบันนายเรืองไกรฯ ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐโดยมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค ตามมติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๕ วันที่ ๓-๕ มกราคม ๒๕๖๗ (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๒) จึงอาจมีการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ป.ป.ช. และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และผิดมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระรวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามบัญชีท้ายข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังนี้

ข้อ ๘ ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเองหรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ

ข้อ ๙ ต้องไม่ขอ ไม่เรียก ไม่รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดในประการที่อาจทำให้กระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่

ข้อ ๑๐ ต้องไม่รับของขวัญของกำนัล ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เว้นแต่เป็นการรับจากการให้โดยธรรมจรรยา และการรับที่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับให้รับได้

ข้อ ๑๑ ไม่กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

ข้อ ๑๗ ไม่กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง

จึงถือว่าเป็นการผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระรวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. ๒๕๖๑ ข้อ ๒๗ การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมในหมวด ๑ ให้ถือว่ามีลักษณะร้ายแรง

ข้าพเจ้าในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีจึงขอร้องเรียนตามกฎหมาย ป.ป.ช. และจริยธรรมอย่างร้ายแรงว่านายเรืองไกรฯ ในฐานะผู้ถูกกล่าวหามีความผิดจากกรณีการครอบครองรถเบนซ์ จำนวน ๒ คัน ได้แก่ รถเบนซ์สีดำจดทะเบียนในนามของนายเรืองไกรฯ และสีขาวไม่ทราบว่าจดทะเบียนในนามของผู้ใด (ปรากฏข่าวตามสื่อมวลชนจากการให้สัมภาษณ์ของนายเรืองไกรฯ ว่าผู้ใหญ่ใจดีซื้อให้) และหลังจากนายเรืองไกรได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรีให้ดำรงตำแหน่ง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ….. (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๓) ปรากฎข้อเท็จจริงว่านายเรืองไกรได้รับแคชเชียร์เช็คธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนประดิพัทธ์ เลขที่ ๐๐๐๙๐๙๘๒ ลงวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ (วันที่ 22 เดือน 02 ค.ศ. 2021) สั่งจ่ายชื่อ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ จำนวนเงิน ๒๕ ล้านบาท (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๔) โดยขณะเกิดเหตุรับแคชเชียร์เช็ค นายเรืองไกรเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ รับเช็คมาจากผู้ใด สาเหตุใดเพราะมีมูลค่าสูงมากซึ่งผิดวิสัยของผู้ประกอบอาชีพสามัญทั่วไป

ดังนั้นขอให้หน่วยงานของท่านเป็นผู้แทนในการสอบทานและตรวจสอบว่ารถเบนซ์ จำนวน ๒ คัน และแคชเชียร์เช็ค จำนวนเงิน ๒๕ ล้านบาท ดังกล่าวนายเรืองไกรฯ เสียภาษีกับกรมสรรพากรหรือไม่ ที่ได้รับมาเกิดจากการรับทำงานให้ รับจ้างให้ใคร ซึ่งมีหน้าที่ต้องเสียภาษีอากรได้เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ หรือเป็นการได้มาจากการให้โดยเสน่หา และขอให้แจ้งกรมสรรพากรดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการเสียภาษีจากการมีรายได้และทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น ตรวจสอบกรรมาธิการงบประมาณฯ ชื่อนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ว่าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่

ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นนักร้องเรียนและได้รับแต่งตั้งจากสภาผู้แทนราษฎรให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นกรณีที่อยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ จึงขอให้ท่านประธานรัฐสภาตั้งเรื่องการสอบสวนจริยธรรมโดยเร็วที่สุดว่าผู้ถูกกล่าวหามีความผิดตามกฎหมายและมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่ เพื่อความยุติธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อปราบทุจริตตามนโยบายของสภาผู้แทนราษฎร

อนึ่งเฟสบุ๊ค “เรืองไกร นกมรจ” ของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ผ่านมาเคยเผยแพร่ภาพถ่ายคู่กับรถเบนซ์สีดำและสีขาวพร้อมเผยแพร่อย่างเปิดเผยกับสาธารณะนั้น (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑) แต่บัดนี้ในปัจจุบันจากการสืบค้นทางอินเตอร์เน็ตปรากฏว่าไม่พบเฟสบุ๊คของนายเรืองไกรแล้ว มีเหตุเชื่อได้ว่านายเรืองไกรได้ทำลายหลักฐานโดยปิดเฟสบุ๊ค “เรืองไกร นกมรจ” ไปแล้วตามเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้ (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๕)

จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัดต่อไปภายใน ๓๐ วัน หากได้ผลประการใด กรุณาแจ้งให้ข้าพเจ้าและประชาชนทราบด้วย จักขอบพระคุณยิ่ง

เวลาต่อมา เวลา ๑๓.๓๐ น. นายวัชระ ได้เดินทางไปที่สำนักงาน ป.ป.ช.นนทบุรี ยื่นเรื่องต่อ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้สอบสวนการกระทำของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ว่ากระทำผิดจริยธรรมร้ายแรงและผิดกฎหมาย ป.ป.ช. หรือไม่ และขอทราบผลการสอบสวนกรณีร่ำรวยผิดปกติด้วย ปม รับรถเบนซ์ 2 คัน และแคชเชียร์เช็ค 25 ล้านบาท ว่า ป.ป.ช.สอบสวนคืบหน้าไปถึงไหนแล้วหลังจากยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.สอบนานกว่า 1 ปี 7 เดือนแล้ว ขอพลตำรวจเอกวัชรพล ประสานราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.อย่าประวิงการสอบสวน

โดยนายวัชระระบุว่า ในฐานะประชาชนผู้เสียภาษี ได้มีหนังสือร้องเรียนกล่าวหา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เมื่อครั้งดำรงโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นผู้ใช้อำนาจรัฐสั่งหรือมีมติให้หน่วยราชการของรัฐทุกหน่วย รัฐวิสาหกิจทุกแห่ง องค์กรอิสระทุกแห่ง สั่งให้ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานองค์กรอิสระปฏิบัติตามเกี่ยวกับการพิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณ ว่ากระทำผิดจริยธรรมร้ายแรงและผิดกฎหมายป.ป.ช. หรือไม่ และขอทราบผลการสอบสวนกรณีร่ำรวยผิดปกติ ความละเอียดที่ทราบแล้วนั้น

ในการนี้จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามสื่อมวลชนและเฟสบุ๊คของนายเรืองไกร “เรืองไกร นกมรจ” นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้ลงภาพได้รับรถเบนซ์ทั้งสองคันขณะนั้นถือว่าเป็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” และปัจจุบันนายเรืองไกรฯ ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐโดยมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค ตามมติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๕ วันที่ ๓-๕ มกราคม ๒๕๖๗ (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑) โดย

นายเรืองไกรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมาธิการปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๕ ปี ๒๕๖๖ และปี ๒๕๖๗ จึงอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย ป.ป.ช. และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และผิดมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระรวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามบัญชีท้ายข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. ๒๕๖๓ (ตามความข้างต้น)

จึงถือว่าเป็นการผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระรวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. ๒๕๖๑ ข้อ ๒๗ การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมในหมวด ๑ ให้ถือว่ามีลักษณะร้ายแรง

ดังนั้นขอให้หน่วยงานของท่านเป็นผู้แทนในการสอบทานและตรวจสอบว่ารถเบนซ์ จำนวน ๒ คัน และแคชเชียร์เช็ค จำนวนเงิน ๒๕ ล้านบาท ดังกล่าวนายเรืองไกรฯ เสียภาษีกับกรมสรรพากรหรือไม่ ที่ได้รับมาเกิดจากการรับทำงานให้ รับจ้างให้ใคร ซึ่งมีหน้าที่ต้องเสียภาษีอากรได้เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ หรือเป็นการได้มาจากการให้โดยเสน่หา และขอให้แจ้งกรมสรรพากรดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการเสียภาษีจากการมีรายได้และทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น ตรวจสอบกรรมาธิการงบประมาณฯ ชื่อนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ว่าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่

บัดนี้นับแต่วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๕ ที่ข้าพเจ้ามีหนังสือร้องเรียนกล่าวหา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กับสำนักงาน ป.ป.ช. ระยะเวลาล่วงเลยมาแล้วไม่น้อยกว่า ๑ ปี ๗ เดือน ข้าพเจ้าในฐานะผู้ร้องเรียนตามกฎหมาย ป.ป.ช. จึงขอทราบผลความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวน นายเรืองไกรฯ ในฐานะผู้ถูกกล่าวหามีความผิดจากกรณีการครอบครองรถเบนซ์ จำนวน ๒ คัน ได้แก่ รถเบนซ์สีดำจดทะเบียนในนามของนายเรืองไกรฯ และสีขาวไม่ทราบว่าจดทะเบียนในนามของผู้ใด (ปรากฏข่าวตามสื่อมวลชนจากการให้สัมภาษณ์ของนายเรืองไกรฯ ว่าผู้ใหญ่ใจดีซื้อให้) และหลังจากนายเรืองไกรได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรีให้ดำรงตำแหน่ง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. …… (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๒) ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายเรืองไกรได้รับแคชเชียร์เช็คธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนประดิพัทธ์ เลขที่ ๐๐๐๙๐๙๘๒ ลงวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ (วันที่ 22 เดือน 02 ค.ศ. 2021) สั่งจ่ายชื่อ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ จำนวนเงิน ๒๕ ล้านบาท (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๓) โดยขณะเกิดเหตุรับแคชเชียร์เช็ค นายเรืองไกรเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ รับเช็คมาจากผู้ใด สาเหตุใดเพราะมีมูลค่าสูงมากซึ่งผิดวิสัยของผู้ประกอบอาชีพสามัญทั่วไป นายเรืองไกรต้องชี้แจงให้ปราศจากข้อสงสัยของสังคม

ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นนักร้องเรียนและกรรมาธิการงบประมาณฯ เป็นกรณีที่อยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ จึงขอให้สำนักงาน ป.ป.ช. รีบดำเนินการสรุปสำนวนการสอบสวนโดยเร็วที่สุดว่าผู้ถูกกล่าวหามีความผิดตามกฎหมายและมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่ เพื่อความยุติธรรมกับทุกฝ่าย

อนึ่งเฟสบุ๊ค “เรืองไกร นกมรจ” ของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ผ่านมาเคยเผยแพร่ภาพถ่ายคู่กับรถเบนซ์สีดำและสีขาวพร้อมเผยแพร่อย่างเปิดเผยกับสาธารณะนั้น (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๔) แต่บัดนี้ในปัจจุบันจากการสืบค้นทางอินเตอร์เน็ตปรากฏว่าไม่พบเฟสบุ๊คของนายเรืองไกรแล้ว มีเหตุเชื่อได้ว่านายเรืองไกรได้ทำลายหลักฐานโดยปิดเฟสบุ๊ค “เรืองไกร นกมรจ” ไปแล้วตามเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้ (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๕)

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัดต่อไปภายใน ๓๐ วัน อย่าได้ประวิงเวลาแม้ว่าจะเคยปรากฎหลักฐานและข้อเท็จจริงว่าพลตำรวจเอกวัชรพล ประสานราชกิจ ประธานกรรมการป.ป.ช. ที่จะหมดวาระในเดือนกันยายน ๒๕๖๗ นี้จะเคยเป็นทีมงานหน้าห้องของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐมาก่อนก็ตาม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts