เกิดเหตุพ่อขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนแม่อุ้มลูกวัยเดือนเศษจากศรีราชาจะกลับบ่อวิน ขี่มาถึงกลางแยกถูกรถจิ๊บเชอโรกีพุ่งชนท้าย รถจักรยานยนต์ล้ม พ่อแม่กระเด็นล้มกลิ้ง ปล่อยลูกหลุดมือตกลงกลางถนน ก่อนตั้งสติฝืนเจ็บ วิ่งไปคว้าลูก พบไม่มีชีพจร แจ้งพยาบาลกู้ชีพลั่นทมช่วยเหลือ ล่าสุดเด็กฟื้นกลับมามีชีพจรแล้ว
เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.วันนี้ ( 17 กุมภาพันธ์ 2567)ศูนย์วิทยุกู้ภัยเพียวเยื่ยงไท้ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์นั่งส่วนบุคคลชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย 1 ในนั้นเป็นเด็กอายุประมาณ 1 เดือนกว่า มีอาการสาหัส หมดสติ ปลุกไม่ตื่น ไม่มีชีพจร จึงประสานเจ้าหน้าที่พยาบาลกู้ชีพ “ลั่นทม” โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เข้าร่วมช่วยเหลือ ที่บริเวณถนนสายยางเอนสายเก่า แยกนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 3 หมู่ 6 ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี หลังทราบเหตุจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ่อวินท้องที่เกิดเหตุให้ทราบ
ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าคลิ๊ก สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน 2 กฒ 8803 ชลบุรีล้มคว่ำอยู่ริมถนนข้างไหล่ทาง ในสภาพพังเสียหาย และพบรถยนต์แอนกประสงค์ยี่ห้อ JEEP เชอโรกี สีเขียว หมายเลขทะเบียน พย 3409 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ข้างถนน มีร่องรอยการชนที่กันชนหน้าด้านซ้าย พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย รายแรกคือ นายอานนท์ รัชพลแสน อายุ 26 ปี เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนซ้าย มีร่องรอยถลอกตามร่างกาย รายที่สองคือ นางสาวชลธิชา ด้วงพิทักษ์ อายุ 25 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ แขนซ้าย ช่องท้องด้านซ้าย ขาซ้ายและขาขวา นั่งอยู่ริมถนน ได้แต่พูดว่า”ลูกหนูเป็นอย่างไรบ้าง ลูกหนูเป็นอย่างไรบ้าง”ใกล้กันพบร่าง เด็กทารกอายุ 1 เดือน 15 วัน นอนหมดสติ ไม่มีชีพจร เจ้าหน้าที่กู้ชีพ “ลั่นทม” โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา กำลังช่วยกันทำ CPR และรีบพาตัวเด็กทารกขึ้นรถนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จอย่างเร่งด่วน
จากการสอบถาม นายอานนท์ รัชพลแสน พ่อเด็กผู้ขี่รถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า ตนเองเดินทางกลับจากอำเภอศรีราชาเพื่อที่จะไปบ่อวิน โดยมีภรรยาอุ้มลูกวัย 1 ขวบ 15 วันไปด้วย ตนเองขี่มาทางตรงพอขี่มาถึงกลางแยกก็มีรถยนต์จิ๊บขับพุ่งออกมาทางแยกฝั่งซ้ายมือตนเอง ชนบริเวณด้านข้างท้ายรถอย่างแรงจนรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ ตนและแฟนกระเด็นไปกับรถ ส่วนลูกวัยขวบเศษกระเด็นตกอยู่บริเวณกลางถนน พอตนเองรู้สึกตัวก็วิ่งไปอุ้มลูกด้วยความเป็นห่วง พบว่าลูกนอนแน่นิ่ง หมดสติ และไม่พบชีพจร จึงรีบโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วยเหลือ ทำ CPR อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนเองรู้สึกเป็นห่วงลูกเป็นอย่างมาก โดยลูกตนนี้เป็นลูกคนที่สาม โดยคนโตอายุ 3 ขวบ คนรองอายุ 1 ขวบ ก็รู้สึกสงสารลูกมาก ไม่อยากให้ลูกเป็นอะไร
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุและพยานแจ้งว่า รถจักรยานยนต์วิ่งกันมาในทางตรง พอถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสี่แยก ไม่มีไฟแดง รถทั้งสองคันก็ไม่ยอมหยุด จนกระทั่งรถกระบะซึ่งมาทางโทพุ่งชน และทำให้ผู้ที่โดยสารมาได้รับบาดเจ็บดังกล่าว และจากการสอบถามอาการล่าสุด พบว่าเด็กทารกได้รับการช่วยเหลือจากทีมแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จนเด็กกลับมามีชีพจรอีกครั้ง