พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) กำชับให้ตำรวจไซเบอร์สืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่หลอกลวงประชาชนเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 สั่งการให้ พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 นำกำลังติดตามจับกุมผู้ต้องหาขบวนการหลอกชักชวนเทรดทองคำ อ้างผลตอบแทนสูง ซึ่งมีประชาชนหลงเชื่อ สูญเงินจำนวนมาก
ล่าสุด วันที่ 19 ก.พ.67 พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 สั่งการตำรวจไซเบอร์ บก.สอท.3 จับกุมนายสุทธิพงษ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น กระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมได้ที่หน้าบ้านพักในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.โป่งแพร่ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย
สืบเนื่องจากประมาณเดือนมิถุนายน 2566 นางศิรารัตน์ ผู้เสียหาย เข้าใช้งานแอปพลิเคชันติ๊กต็อก พบบุคคลซึ่งใช้แอปพลิเคชันติ๊กต็อกชื่อว่า “Bank” ได้โพสต์ข้อความโฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนเทรดทองคำ มีผลตอบแทนสูง “ลงทุนเทรดทอง 100,000 บาท จะได้กำไร 18,000 บาท, โปรโมชั่น วีไอพี ลงทุน 500,000 บาท จะได้กำไร 188,000 บาท ชำระครบรับโบนัสพิเศษ 58,000 บาท” ผู้เสียหายจึงกดเข้าไปดูโปรไฟล์ผู้ใช้ติ๊กต็อก ดังกล่าว ปรากฏว่ามีจำนวนผู้ติดตามจำนวนมากและเปิดเป็นสาธารณะ ผู้เสียหายจึงได้กดติดตาม
หลังจากนั้นคนร้ายได้ทักข้อความมาหาชักชวนลงทุนเทรดทองคำ และให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนทางไลน์ จากนั้นคนร้ายได้ชักชวนทดลองเทรดทองคำในระบบซึ่งเป็นระบบที่คนร้ายสร้างขึ้นมาหลอกลวง สร้างความน่าเชื่อถือโดยผลการเทรดได้กำไรดี จากนั้นคนร้ายได้ชักชวนให้ผู้เสียหายทำการเทรดทองด้วยตัวเอง โดยส่งลิงก์สำหรับการเทรดไปให้ติดตั้งในเครื่องโทรศัพท์ แล้วกรอกข้อมูลส่วนตัวลงในลิงก์ จากนั้นเมื่อผู้เสียหายกรอกข้อมูลเสร็จ ได้โอนเงินเข้าระบบเพื่อทำการเทรดทองคำ เข้าบัญชีชื่อ “นายนันทชัย” ซึ่งช่วงแรกได้กำไรและถอนเงินได้จริง จึงได้โอนเงินเพิ่มเติมอีก 3 ครั้ง เข้าบัญชีชื่อ “นายสุทธิพงษ์” รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 470,000 บาท แต่ไม่สามารถถอนเงินดังกล่าวได้ จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวร
ต่อมาตำรวจไซเบอร์ บก.สอท.3 สืบสวนทราบว่า นายสุทธิพงษ์ หนึ่งในผู้ต้องหาบัญชีม้า อยู่ในพื้นที่ ต.โป่งแพร่ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย จึงได้ประสานตำรวจ บก.สอท.4 , สถานีตำรวจทางหลวง 5 กองกำกับการ 5 , สภ.แม่ลาว จ.เชียงราย และฝ่ายปกครอง อ.แม่ลาว นำกำลังร่วมจับกุม นายสุทธิพงษ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า ตนมีอาชีพขับรถกระบะรับส่งคนงานจัดสวน ซึ่งเพื่อนคนงานจัดสวนเป็นคนต่างด้าวให้เปิดบัญชีธนาคารให้ เพื่อจะให้แฟนเพื่อนโอนเงินมาจากประเทศเกาหลี เนื่องจากเพื่อนเปิดบัญชีเองไม่ได้ จึงได้เปิดบัญชีให้เพื่อนไป ปัจจุบันเพื่อนคนดังกล่าวได้หลบหนีออกจากงานไปแล้ว ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ติดตามจับกุมบัญชีม้าที่หลบหนีอีกราย รวมทั้งขยายผลถึง ผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดมาดำเนินคดีโดยเร็ว
ทั้งนี้ หากประชาชนเป็นผู้เสียหายสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสามารถแจ้งความออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th