วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจชี้เหตุผล ทำไมไม่ตรวจแอลกอฮอล์ไฮโซปลาวาฬ - โดนข้อหาแค่ 1 กระทง

Related Posts

ตำรวจชี้เหตุผล ทำไมไม่ตรวจแอลกอฮอล์ไฮโซปลาวาฬ – โดนข้อหาแค่ 1 กระทง

“…ชาวโซเชียลตั้งข้อสังเกตว่า การที่พบว่าแผ่นการ์ดเรลราวเหล็กได้รับความเสียหาย และมีร่องรอยเบรคเป็นทางยาว ก่อนที่จะไปถึงจุดที่รถเกิดไฟไหม้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท้ายเหมือง ได้ลงตรวจจุดเกิดเหตุในเบื้องต้น ทำการเก็บพยานแวดล้อม พร้อมตรวจสอบวัตถุสิ่งของที่ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นพบการ์ดเรล หรือราวกั้นทางโค้งได้รับความเสียหาย มีความยาวประมาณ 30 เมตร เหล่านี้ คือทรัพย์สินของราชการที่เสียหาย คือคู่กรณีที่คนขับ มีความผิดจะต้องชดใช้ ฐานทำให้ทรัพย์ราชการเสียหาย ไม่ใช่หรือ เหล่านี้จะแจ้งว่าไม่มีคู่กรณีได้อย่างไร?..”

ตำรวจ สภ.ท้ายเหมือง แจ้งข้อหาเบื้องต้น “ไฮโซปลาวาฬ” ขับรถโดยประมาท ทำให้ทรัพยสินผู้อื่นได้รับความเสียหาย พร้อมยืนยันเคสนี้ไม่ต้องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ขณะที่พลเมืองดีเผยนาทีไฟไหม้วอดเบนท์ลีย์ 30 ล้าน คนขับสาดน้ำเข้าใต้ท้องรถ

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รถหรูไฮโซปลาวาฬ บริเวณถนนเพชรเกษม โค้งบ้านขนิม ม.7 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์ ยี่ห้อเบนท์ลีย์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 ขษ 7426 กรุงเทพมหานคร ไฟไหม้ พบนายวรสิทธิ อิสสระ หรือ ไฮโซปลาวาฬ อายุ 40 ปี ทายาทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง เจ้าของโรงแรมศรีพันวาภูเก็ต แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ และมี นายธนันชัย เดชจักรทิพย์ ชาว กทม. เป็นผู้โดยสาร ไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นถนนเพชรเกษม สายตะกั่วป่า-ท้ายเหมือง เป็นทางโค้ง พบแผ่นการ์ดเรลราวเหล็กได้รับความเสียหาย และมีร่องรอยเบรคเป็นทางยาว ก่อนที่จะไปถึงจุดที่รถเกิดไฟไหม้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท้ายเหมือง ได้ลงตรวจจุดเกิดเหตุในเบื้องต้น ทำการเก็บพยานแวดล้อม พร้อมตรวจสอบวัตถุสิ่งของที่ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นพบการ์ดเรล หรือราวกั้นทางโค้งได้รับความเสียหาย มีความยาวประมาณ 30 เมตร

ส่วนรถเบนท์ลีย์คันที่เกิดเหตุ ทางเจ้าของรถได้ติดต่อบริษัทประกันยกรถไปเก็บไว้ที่อู่ในจังหวัดภูเก็ต เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่า ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แต่อย่างใด เพราะเคสนี้ไม่มีคู่กรณี หรือผู้ได้รับบาดเจ็บ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า โค้งดังกล่าวเป็นโค้งอันตราย มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้ง โดยผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งบอกกับทีมข่าวว่า ตนเองได้ผ่านเส้นทางดังกล่าวพบมีอุบัติเหตุ จึงจอดรถและลงไปดูเหตุการณ์ ซึ่งช่วงแรกไม่ทราบว่าเป็น ไฮโซปลาวาฬ แต่เห็นว่ามีอุบัติเหตุจึงเข้าสอบถามเพื่อต้องการช่วยเหลือ ได้สอบถามถึงอาการของคนขับและผู้โดยสาร ได้คำตอบว่า “ไม่เป็นอะไรมาก” จากนั้นเห็นว่าคนขับลุกลี้ลุกลนเนื่องจากเห็นมีควันขึ้นใต้ท้องรถคันเกิดเหตุ

โดยคนขับถามว่า “พี่มีน้ำในรถมั้ย” ซึ่งตนเองบอกว่ามีน้ำเพียงค่อนขวด หากนำมาดับควันไม่เพียงพอแน่ พร้อมแนะนำให้ไปเอาน้ำถังที่บ้านของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ซึ่งเจ้าของรถได้ใช้น้ำถังสาดเข้าใต้ท้องรถเพื่อระงับควัน แต่ทำให้ควันกลับรุนแรงขึ้น ซึ่งในขณะที่เจ้าของรถกลับไปเอาน้ำมาเพิ่ม กลับมีเปลวเพลิงขึ้นจากใต้ท้องรถและลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตนเองจึงประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่าย ปภ. ของ อบต.ทุ่งมะพร้าว และ อบต.ท้ายเหมือง เข้าดับไฟจนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่สภาพรถคันดังกล่าวเสียหายจากไฟไหม้ทั้งคัน

“…ชาวโซเชียลตั้งข้อสังเกตว่า การที่พบว่าแผ่นการ์ดเรลราวเหล็กได้รับความเสียหาย และมีร่องรอยเบรคเป็นทางยาว ก่อนที่จะไปถึงจุดที่รถเกิดไฟไหม้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท้ายเหมือง ได้ลงตรวจจุดเกิดเหตุในเบื้องต้น ทำการเก็บพยานแวดล้อม พร้อมตรวจสอบวัตถุสิ่งของที่ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นพบการ์ดเรล หรือราวกั้นทางโค้งได้รับความเสียหาย มีความยาวประมาณ 30 เมตร เหล่านี้ คือทรัพย์สินของราชการที่เสียหาย คือคู่กรณีที่คนขับ มีความผิดจะต้องชดใช้ ฐานทำให้ทรัพย์ราชการเสียหาย ไม่ใช่หรือ เหล่านี้จะแจ้งว่าไม่มีคู่กรณีได้อย่างไร?..”

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts