นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในเดือนมี.ค. ยอดผลิตรถยนต์ลดลง 23.08% ยอดขายลดลง 29.83% ยอดส่งออกลดลง 3.35%
โดยยอดส่งออกที่ลดลงเนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้ง ทำให้เดือน มี.ค.67 ส่งออกได้ 95,089 คัน ลดลง 3.35% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน แยกเป็นรถยนต์สันดาปภายใน ICE 90,201 คัน ลดลง 7.76% ส่งออกรถยนต์ HEV 4,888 คัน เพิ่มขึ้น 728.47% จากปีก่อน ส่งผลให้การส่งออกในช่วงไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ของปี 67 อยู่ที่ 270,525 คัน ลดลง 1.16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 248,608.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.01% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ภาะรวมการส่งออกยังได้อานิสงส์ของบางประเทศคู่ค้าที่ยังเติบโต เช่น ประเทศออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก สหราชอาณาจักร เป็นต้น
ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือน มี.ค.67 มีจำนวนทั้งสิ้น 56,099 คัน ลดลง 29.83% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินจากหนี้ครัวเรือนที่สูงมากและเศรษฐกิจที่อ่อนแอ เพราะความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่ล่าช้าไปหลายเดือน ทำให้การใช้จ่าย การลงทุน และการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชะลอตัวไปด้วย ซึ่งคาดว่าครึ่งปีหลังยอดขายรถยนต์จะดีขึ้นจากการใช้จ่ายการลงทุนและการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลร่วมกับการลงทุนของเอกชนและการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นมากกว่า 33 ล้านคน ขณะที่ช่วงไตรมาสแรกมียอดขาย 163,756 คัน ลดลง 24.56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือน มี.ค.67 มีทั้งสิ้น 138,331 คัน ลดลง 23.08% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการลดลงของการผลิตรถกระบะและรถยนต์นั่งเพื่อขายในประเทศถึง 41.01% เนื่องจากมาตรการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน รวมถึงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศยังมีไม่มาก เพราะโรงงานผลิตรถยนต์บางบริษัทยังไม่พร้อม คาดว่าการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มมากขึ้นในไตรมาสที่ 3 ขณะที่รถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วงไตรมาสแรกมีจำนวนทั้งสิ้น 414,123 คัน ลดลง 18.45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน