‘ปอง’ เคลื่อนไหวหลัง ททบ.5 ตัดสัญญาณ ขณะจะอ่านข่าวสงครามรัสเซีย-ยูเครน ‘บิ๊กตู่’ ยันไม่ยุ่งเกี่ยวคำสั่ง ผอ.ช่อง 5 พ้นหน้าที่ เตือนสื่ออย่าร่วมขัดแย้ง-วิจารณ์มากเกินไป
เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2565 จากกรณีมีกระแสข่าวว่า รายการข่าว “เที่ยง ททบ.5” ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) ดำเนินรายการโดย นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก และ นางสาวกิตติมา ธารารัตนกุล ถูกตัดสัญญาณกะทันหัน ระหว่างเวลา 12.51 น. เมื่อ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ทั้งสองกำลังนำเสนอข่าวเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน
ทั้งนี้รายการดังกล่าว มีบริษัท กาแลคซี่ มัลติมีเดีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ GMC กลุ่มที่มาจากสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมท็อปนิวส์ (Top News) ของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เป็นผู้ร่วมผลิตรายการส่งสัญญาณผ่านอินเทอร์เน็ตระบบ Live U จากสตูดิโอท็อปนิวส์ โครงการธนาซิตี้ ที่ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ. สมุทรปราการ ไปยัง ททบ.5 สนามเป้า
ต่อมามีกระแสข่าวว่า Top News ขอถอนตัวจากการร่วมผลิตข่าวทั้งหมด โดยมีผลวันที่ 31 มี.ค. นี้
และล่าสุดมีความเคลื่อนไหวของ นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า “ถ้าคุณถูกสั่งห้ามเสนอข่าว ยูเครนกับรัสเซีย คุณจะทำงานกับคน เหล่านี้ต่อไป ไหม ?”
ทางด้าน พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) ให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ลับลวงพรางแชนแนล (WWW.LLPCH.NEWS) ช่วงหนึ่ง ว่า
“ผมมองว่า ตอนนี้ ข่าวสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ในแง่ ปฏิบัติการทางทหาร มันไม่น่าสนใจแล้ว เราไม่ได้สนใจว่าใครจะแพ้หรือใครจะชนะ แต่สนใจผลกระทบที่กิดขึ้น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ จึงได้มีการหารือกันว่าเราจะเสนอข่าวในแง่ของผลกระทบ เท่านั้น”
ส่วนคำสั่งให้ ททบ.5 งดเสนอข่าว สงคราม รัสเซีย-ยูเครน นั้น เป็นคำสั่งจาก นายกฯ หรือไม่ พล.อ.รังษี เลี่ยงที่จะตอบว่า “ใช่หรือไม่” โดยกล่าวว่า “เอาเป็นว่า เราได้รับทราบว่า มีข้อห่วงใย ว่า เรื่องนี้มันละเอียดอ่อน จึงได้งดการเสนอข่าว ไปก่อน”
สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระแสข่าวว่า พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะประธานบอร์ดสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) มีคำสั่งให้ พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5 พ้นจากหน้าที่ โดยให้ พล.ท.วิสันติ สระศรีดา เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำหน้าที่แทน ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน เป็นต้นไป เนื่องจากกรณีเข้าพบทูตรัสเซีย-ยูเครน
พล.อ.รังษี ยอมรับว่าตนทำหนังสืออนุมัติถึง ผบ.ทบ.ขอพ้นหน้าที่ ผอ.ททบ. ด้วยเหตุผลและความจำเป็นส่วนตัว ซึ่ง ผบ.ทบ เซ็นอนุมัติพ้นหน้าที่ และไม่ขอพูดอะไร พูดไปก็ไม่มีประโยชน์
“ไม่ใช่การปลด แต่ผมขออนุมัติพ้นจากหน้าที่เอง อย่าบอกว่าไม่ปลด ไม่แฟร์กับ ผบ.ทบ. ผมเพิ่งได้รับคำสั่งเมื่อเช้า ก่อน ผบ.ทบ.เดินทางไปลาว” พล.อ.รังษี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลถึงกรณีนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวเรื่องนี้กับสื่อมวลชนว่า จริงๆ แล้วตนไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเขาอยู่แล้ว เพราะตนไม่ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งตนไม่ได้พูดถึงเฉพาะช่อง 5 ทุกช่องนั่นแหละเวลาออกข่าวพวกนี้ถ้าวิเคราะห์มากเกินไปบางทีทำให้เกิดปัญหาในภาพรวมของประเทศ หากเสนอตามนั้นก็ปกติไป เพราะจริงๆแล้วเราอยู่คนละภูมิภาค แต่ข้อสำคัญเราอยู่ในองค์กรไม่ว่าจะเป็นสหประชาชาติ กลุ่มนั้นกลุ่มนี้เราก็เป็นสมาชิกเขาหมดใช่หรือไม่ ดังนั้นเราต้องระมัดระวังก็แล้วกันทำอย่างไรไม่ให้เกิดผลกระทบกับประเทศเรา นะจ๊ะ เห็นใจหน่อย
เมื่อถามว่ามีข่าวว่านายกฯ แสดงความไม่สบายใจไปยังผู้บังคับบัญชา ททบ.5 หรือไม่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ ตนไม่ได้พูดอะไร เขาคงเป็นเรื่องการตรวจสอบคัดกรองกันเอง เพราะเขามีกรรมการอยู่แล้ว ตนไม่ไปยุ่งหรอก เมื่อถามว่ามีข่าวออกมาแบบนั้น นายกฯ ตอบว่า ก็ข่าวไง และตนก็พูดอยู่นี้ว่าไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง ก็แค่นั้นแหละ เป็นเรื่องภายในของเขา อย่าลืมว่าตนไม่ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบกจะไปสั่งเขาได้อย่างไร เป็นเรื่องกรรมการของเขาที่จะพิจารณากันเอง รัฐบาลมีนโยบายเพียงแต่ว่าอย่าไปร่วมขัดแย้งกับเขาเข้าใจหรือไม่ เสนอข่าวด้วยข้อเท็จจริงได้ไหม บางทีบางเรื่องไม่เหมาะสมที่จะไปวิพากษ์วิจารณ์อะไรกันมากมายนักหรอก ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับเรา นะจ๊ะ