กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบชก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ, พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์, พ.ต.ท.ธนศักดิ์ สว่างศรี, พ.ต.ท.อภิชน ขันกา และ พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์ รอง ผกก.1 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.มณเฑียร ธงเทียน สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.อาทิตย์ ศุภนคร รอง สว.(ป) กก.1 บก.ป., ด.ต.รัตนภูมิ ชูชื่น, ด.ต.อนุวัฒน์ ภูพวงนิล, จ.ส.ต.กฤษฎา ขามฝาด, จ.ส.ต.จีระวัฒน์ ไชยผา, จ.ส.ต.วุฒิพงษ์ กรีเทพ, จ.ส.ต.หญิง ทัศนีย์ สุขศรี, จ.ส.ต.หญิง ศิริญญ์รดา ศรีรัมย์, ส.ต.อ.ศรัณย์ โนคาน ผบ.หมู่ กก.1 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม
- นายธนกฤตฯ อายุ 25 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 704/2566 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ความผิดต่อชีวิต (พยายาม) ความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ หลบหนีไม่มาศาลตามกำหนด”
- นายพิพัฒน์ฯ อายุ 40 ปี ตามหมายจับของศาลแขวงนครราชสีมา ที่ 95/2567 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”
สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนสถลเชียงคาน ตำบลกุดป่อง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ดำเนินการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังคงหลบหนีการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๑ บก.ป. ได้ทำการสืบสวนติดตามตัวนายธนกฤตฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี โดยผู้ต้องหามีพฤติการณ์ก่อเหตุเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2565 ซึ่งขณะนั้นน้องชายของผู้ต้องหาได้ไปร่วมเชียร์การแข่งกีฬาฟุตซอล ณ สวนสุขภาพแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี หลังจากนั้นได้เจอกลุ่มคู่อริเก่า และเกิดการทะเลาะวิวาทขึ้น ทางน้องชายของผู้ต้องหาจึงโทรตามผู้ต้องหาให้มาช่วย ซึ่งเมื่อนายธนกฤตฯ เห็นน้องชายเสียท่า จึงชักปืนที่พกมาด้วยยิงขึ้นฟ้า 1 นัด โดยกระสุนไปโดนอัฒจรรย์ซึ่งเป็นโลหะเหล็ก ทำให้สะเก็ดไปโดนผู้เสียหายทำให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งภายหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวนายธนกฤตฯ และดำเนินการตามกฎหมาย แต่ต่อมาภายหลังทางนายธนกฤตฯ ได้ขอประกันตัวออกมา และหลบหนีไม่ไปศาลตามนัด ศาลจึงดำเนินการออกหมายจับนายธนกฤตฯ ตามหมายจับดังกล่าว
- 2 –
ซึ่งจากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ทราบว่าผู้ต้องหาที่ ๑ ได้หลบหนีไปอยู่กับคนรู้จัก ในพื้นที่ ตำบลกุดป่อง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าว โดยพบผู้ต้องหาที่ ๑ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาบริเวณริมถนนสถลเชียงคาน ตำบลกุดป่อง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สะกดรอยตามและเข้าทำการจับกุม
โดยขณะจับกุมยังพบนายพิพัฒน์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับตามหมายจับของศาลแขวงนครราชสีมา ที่ 95/2567 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู้ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” อีกหนึ่งรายที่เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ใช้ในการรับโอนเงินในการหลอกลวงซื้อขายกล้องถ่ายรูป มูลค่าความเสียหายประมาณ ๑๘,๕๐๐ บาท
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการจับกุมนายธนกฤตฯ และนายพิพัฒน์ฯ จากนั้นจึงนำตัวส่งศาลจังหวัดกาญจนบุรี และพนักงานสอบสอบสวน สภ.จักราช จ.นครราชสีมา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา