วันเสาร์, กรกฎาคม 6, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมบิ๊กต่อ ร่วม บิ๊กก้อง แถลงผลปฏิบัติการยุทธการ พิทักษ์ประชาราษฎร์ 767 ปราบปราม ผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และแก๊งอาชญากรรม ทั่วประเทศ ค้น...

Related Posts

บิ๊กต่อ ร่วม บิ๊กก้อง แถลงผลปฏิบัติการยุทธการ พิทักษ์ประชาราษฎร์ 767 ปราบปราม ผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และแก๊งอาชญากรรม ทั่วประเทศ ค้น 183 จุดทั่วไทย

วันนี้ (3 ก.ค 67) เวลา 10.00 น. ที่ ห้องประชุม ชั้น 2 (อาคารประชาอารักษ์ ) กองปราบปราม
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำแถลงข่าวผลปฏิบัติการพิทักษ์ประชาราษฎร์ 767 ปราบกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและแก๊งอาชญากรรมทั่วประเทศ พร้อมนำของกลางจากการตรวจยึดมาแสดง ซึ่งเป็นปฏิบัติการของสำนักตำรวจแห่งชาติตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยสั่งการให้ทุกกองบัญชาการทั่วประเทศ ทั้งนครบาลและภูธรภาคทั้ง 9 ภาค ดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรมทั้ง 183 จุด 200 เป้าหมายทั่วประเทศ มีกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นตัวกลางหลักในการประสานงานและกวาดล้างจับกุม ถือเป็นครั้งแรกที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ แถลงข่าวผลปฏิบัติการทางคดีแก่สื่อมวลชนภายหลังนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้กลับมาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามเดิม

สำหรับผลปฏิบัติการดังกล่าว ได้ดำเนินการกับเป้าหมายทั้งแก๊งอาชญากรรม แก๊งเงินกู้ทวงหนี้โหด ผู้มีอิทธิพลซึ่งเกี่ยวข้องกับนักการเมืองท้องถิ่น กลุ่มฮั้วประมูล และบุกรุกที่สาธารณะ โดยผลจากการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 87 ราย ยึดปืนไม่มีทะเบียน 746 กระบอก / ปืนมีทะเบียน 134 กระบอก /อาวุธสงคราม 2 กระบอก /วัตถุระเบิด 3 ลูก /ไซเลนเซอร์ 2 อัน / กระสุนปืน 6,936 ลูก /แมกกาซีน 40 อัน /ยาบ้า 7 ล้านเม็ด /ยาไอซ์ 545.98 กรัม / ยาเค 114.41 กรัม / ยาอี 403 กรัม / รถยนต์ 40 คัน / รถจักรยานยนต์ 79 คัน /สมุดบัญชี 13 เล่ม / และบัตรกดเงินสด 3 ใบ

โดยผลปฏิบัติการที่สำคัญ อาทิ แก๊งฮั้วประมูลกำนันนก มีการดำเนินการทั้งหมด 11 โครงการ ซึ่งมี 2 โครงการ พบพยานหลักฐานว่า เครือข่ายกำนันนกมีบริษัทของผู้ใหญ่โยชน์ พ่อของกำนันนก ชนะการประมูล โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันอย่างเป็นธรรม โดยมีทีมฮั้วประมูล ทีมซื้อขายรายชื่อ และ บริษัทที่สมยอม โดยบุคคลที่เกี่ยวข้องมากกว่า 70 คน

ก่อนเกิดเหตุ บริษัท ป.วีกนก ก่อสร้าง จำกัด และ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด เป็นบริษัทในเครือของกำนันนก ก่อนปี 2558 มีรายได้น้อยกว่า 30 ล้านบาท/ปี ต่อมาได้เข้าร่วมการประมูลโครงการรัฐบาลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทดังกล่าวชนะโครงการ จำนวน 100-200 โครงการ/ปี ซึ่งมีผลประกอบการมากที่สุดใน จ.นครปฐม โดยเข้าร่วมประมูลเข้าร่วม 1,527 โครงการ ชนะ 1,327 โครงการ บริษัทที่แพ้และยื่นซองในโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทเดิม ๆ ที่เคยเข้าประมูล มีการทำเป็นขบวนการ เห็นได้ว่าทั้งสองบริษัท มีพฤติการณ์ทุจริตฮั้วการประมูลโครงการของรัฐ

จึงได้ทำการสืบสวน พบว่า 9 โครงการมีมูลเหตุเชื่อว่า เป็นโครงการที่มีการฮั้วประมูล แต่พบว่า ปี 2564 มี 2 โครงการ ที่ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด ชนะการประมูล โดยมีทีมฮั้วประมูล ซื้อรายชื่อ 1.2% จากขบวนขายรายชื่อและฮั้วไม่ให้บริษัทอื่นยื่น ของประมูล มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกว่า 70 บริษัท และจากการตรวจคันที่ผ่านมา มีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูล บริษัทของผู้ใหญ่โยชน์ พ่อกำนันนก มีทีมฮั้วประมูล ทีมซื้อขายรายชื่อ และบริษัท
ที่สมยอม ทั้งหมด 32 ราย

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 – 25 มิถุนายน 2567 พนักงานสอบสวนได้เรียกทั้ง 32 รายมาแจ้งข้อกล่าวหา แต่มารับทราบข้อกล่าวหา จำนวน 23 ราย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ในส่วน 9 รายที่ยังไม่มาพบ อยู่ระหว่างประสานงาน ซึ่งคดีดังกล่าวได้มีการพิจารณาร่วมกับพนักงานอัยการ เนื่องจากเป็นคดีพิเศษ นอกจากเครือข่ายฮั้วการประมูลที่ จ.นครปฐม แล้ว ยังมีเครือข่ายฮั่วประมูล ในพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ยังมีผลปฏิบัติการของตำรวจสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ที่สามารถจับกุมขบวนการยาเสพติดที่ขยายผลจากเครือข่ายย่านอ่อนนุช 86 เขตประเวศ โดยสามารถจับกุมขบวนการนี้ได้ที่ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ได้ผู้ต้องหา 3 ราย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 และข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาตกับพกพาอาวุธปืนไปที่สาธารณะโดยไม่เหตุอันควร พร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 13 ล้านเม็ด ปืนพกสั้น 1 กระบอกและเครื่องกระสุนซึ่งเป็นของผู้ต้องหา รวมทั้งตรวจยึดทรัพย์สิน จำพวกรถยนต์จำนวน 2 คันและรถจักรยานไฟฟ้า 1 คันรวมทรัพย์สินมูลค่า 2 ล้านบาท โดยจากการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหาทำหน้าที่ขับรถกระบะตู้ทึบลำเลียงยาเสพติดจากภคกลาง มาพักเก็บไว้ที่ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ก่อนจะกระจาย ขายต่อไปยังพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพ โดยอ้างว่าไม่มีงานทำ จึงได้ชักชวนกลุ่มเพื่อนรวม 3 คน มาค้ายาเสพติด อย่างไรก็ตาม พบว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนขับรถนำ สามารถหลบหนีไปได้ ซึ่งทางตำรวจจะดำเนินการสืบสวนขยายผลจับกุมต่อไป

โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า นอกจากปฏิบัติการอาชญากรรมและกลุ่มผู้มีอิทธิพลแล้ว จะมีการปราบปรามยาเสพติดรายใหญ่อีกด้วย ถือเป็นปฏิบัติการรายใหญ่ที่สุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการปราบปรามอาชญากรรมอย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ทางตำรวจยังได้เฝ้าจับตาดูบรรดา influencer อาชญากรรมรุ่นใหม่ ที่พยายามโฆษณาหรือเล่าเกี่ยวกับการกระทำความผิด ซึ่งอาจจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชนและคนรุ่นใหม่ ซึทางตำรวจสืบสวนมีข้อมูลของแก๊งอาชญากรรม influencer เหล่านี้ไว้หมดแล้วและจะดำเนินการขยายผลจากกลุ่มต่อไป

ทางด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการประกาศชนท้ายปราบปรามอาชญากรรม และผู้มีอิทธิพลทุกรูปแบบอย่างจริงจัง โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยิ่งพบเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นการเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์และพิทักษ์ประชาราษฎร์ ซึ่งจะมีปฏิบัติการในลักษณะแบบนี้อย่างต่อเนื่อง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts