เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 3 ก.ค.67 ที่ ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพลโยธิน กรุงเทพมหานคร นางรัตติกร ดิษทับ ภรรยา นายระพิน ดิษทับ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงานเทศบาลเมืองกำแพงเพชร ที่เสียชีวิตจากการใช้กางเกงขายาวผูกแขวนคอเปลือยกายใต้ต้นมะยมหน้าบ้าน โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา โดยการเดินทางมาในวันนี้นางรัตติกรได้นำหนังสือพร้อมเอกสารหลักฐานเพื่อยื่นต่อผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปราม เพื่อรับโอนคดีหรือติดตามคลี่คลาย ผลการสืบสวนสอบสวน ว่าสามีของตนเองได้เสียชีวิตด้วยสาเหตุใดที่แท้จริง
นางรัตติกร กล่าวว่า การเดินทางมาวันนี้ เพื่อทำความจริงให้กระจ่างชัดเจนมากยิ่งขึ้นเพราะที่ผ่านมา ตนเองได้มีการติดตามผลการสืบสวนสอบสวนของตำรวจในพื้นที่ ทั้งการติดต่อสอบถาม การทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร แต่สิ่งที่เราได้รับคำตอบกลับคืนมายังมองดูว่าในบางประเด็นที่ถามไปนั้น ได้รับคำตอบแบบกว้างๆ ไม่ชัดเจนว่าสามีของตนเองเสียชีวิตจากเหตุใดอันแท้จริง เพราะสิ่งที่ยังคาใจของตนเอง ครอบครัว และเชื่อว่าน่าจะเป็นประชาชนทุกคนที่ติดตามข่าว ยังมีข้อสงสัยวิธีการฆ่าตัวตายที่ผิดปกติวิสัยทั่วไป ในการคิดจะแขวนคอแล้วถอดเสื้อผ้าประจานตนเอง แม้จะมีเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่บางคนบอกว่าเมาหลุดไม่รู้ตัว แต่เท่าที่อยู่ด้วยกันมากว่าครึ่งชีวิต ผอ.ระพินไม่เคยมีพฤติกรรมแสดงออกที่ผิดปกติเช่นนั้น และอีกประการหนึ่ง ถ้าหากว่าสามีของตนฆ่าตัวตายที่แท้จริง ตนเองก็อยากรู้ว่าอะไรคือสาเหตุ ที่ทำให้สามีของตนได้คิดฆ่าตัวตาย เพราะก่อนวันเกิดเหตุ ดูจากสภาพทั่วไปแล้วไม่มีอะไรที่เป็นแรงจูงใจที่ทำให้เกิดความเครียด จนถึงขั้นทำให้สามีของตนต้องคิดฆ่าแม้แต่นิดเดียว รวมไปถึงหลายประเด็นทั้ง สัญญาณโทรศัพท์และ Smart Wacth ที่หยุดเดินในพื้นที่เลยจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ลักษณะผ้าที่ใช้แขวนคอ เศษดินที่ติดกับเล็บมือและเท้า หรือการวางสิ่งของโดยเฉพาะรองเท้าระเกะระกะก่อนตาย ซึ่งในหลายประเด็นที่อยากจะทราบความชัดเจนมากกว่านี้ วันนี้ตนเองเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทำงานทุกคน แต่ไม่มั่นใจในชั้นของการเก็บข้อมูลหรือสืบสวนสอบสวนการวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริง ยิ่งปล่อยให้เวลาล่วงเลยหลักฐานทุกอย่างก็จะสูญหายไปตามกาลเวลา จึงได้เดินทางมายังกองบังคับการปราบปรามเพื่อให้เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ช่วยคลี่คลายให้ตนเองและทุกคนที่ติดตามข่าวได้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น
ตลอดจนเรื่องหญิงคนสนิทที่มาพัวพันสามีตนอีกประเด็นตรงนี้ก็ยังไม่มีคำตอบว่าตำรวจเรียกมาสอบปากคำหรือไม่
สำหรับศพสามีของตนเองที่ฝากไว้ยังสถาบันนิติเวช ปทุมธานี นั้น ในวันที่ 15 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ จะมีการหาพิสูจน์มีข้อสงสัยเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังจากนั้นจะได้มีการวางแผนในเรื่องของการนำร่างของสามีตนเองไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.3 รับหนังสือร้องไว้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป