เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ก.ค.67 ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พหลโยธิน จตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่และนายณัฐปกรณ์ สุดชา หรือทนายเจส พา นางสายใจ สิงห์หลอด คุณแม่วัย 76 ปี พร้อม น.ส.ประคอง ลินทอง 50 ปี และ นายทำนอง ลินทอง 52 ปี บุตรสองคน เดินทางมาจาก จ.สุรินทร์ เข้าพบ พงส.บก.ป.แจ้งกรณีถูกน้องสาวยักยอกทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์ โดยแอบเอาที่ดินของคุณยายที่ซื้อเมื่อปี 2528 มาไปออกโฉนดเป็นชื่อน้องสาวคนเดียว ก่อนจะเอาโฉนดดังกล่าวไปจำนองกับนายทุน
ปัจจุบันนายทุนได้พา ตำรวจมาไล่ที่ ขับไล่คุณยายออกจากที่ดินตัวเอง และยังให้กำนันในพื้นที่นำวัวเข้ามาเลี้ยง รวมทั้งกรีดยาง ในพื้นที่ทั้งหมด คุณยายทุกข์ใจมาก หมดหนทางจะสู้ เพราะฝั่งนายทุนจะอ้างตลอดว่ารู้จักตำรวจและผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ในพื้นที่
นางสายใจ กล่าวว่า ตนกับสามีได้ซื้อที่ดิน บ้านคลองน้ำซับ ต.แนงมุด อ.ดาบเชิง จ.สุรินทร์ จากนายบุญมา อุทา และนางเสนาะ อุเมเดช เพื่อนบ้านจำนวน 44 ไร่ เมื่อปี 2528 ในราคา 2 หมื่นบาท เอามาปลูกยางพาราทำกิน และบ้านที่อยู่อาศัย มีลูก 2 คน สามีเสียชีวิตไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ต่อมาเมื่อเดือนที่แล้ว ปรากฎว่ามีกำนันในพื้นที่มาติดป้ายห้ามบุกรุก และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.แนงมุด ภ.จว.สุรินทร์ มาแจ้งให้คนในบ้านทั้งหมดย้ายออกไป เพราะมีคนไปแจ้งความว่าตนบุกรุก เมื่อสอบถามได้ความว่า มีนางทองจันทร์ ตาลไทสง น้องสาวของตนเอาที่ดืนผืนนี้ไปออกโฉนด โดยไม่บอกตน ก่อนจะเอาโฉนดไปจำนองกับนายทุน ซึ่งตนไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าน้องสาวที่ไม่อยู่ด้วยกันจะแอบทำแบบนี้
ปัจจุบันได้รับความเดือดร้อน ไปแจ้งความตำรวจก็ไม่รับแจ้ง ไปร้องทุกข์ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ก็ไม่สนใจ แต่กลับถูกเขามาแจ้งว่าให้ตนและลูกๆ ย้ายออกจากที่ดินของเราภายในสองเดือน หากไม่ออกไปจะจัดการตามกฎหมาย
นายเจส กล่าวว่า วันนี้พาคุณยายและครอบครัวมาร้องขอความช่วยเหลือจากกองปราบ และจะแจ้งความเอาผิดน้องสาวฐานยักยอกทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์ ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินจับจองก่อนขายให้คุณยายสายใจ
เบื้องต้น ร.ต.อ.ไกรสร อินปิน รอง สว(สอบสวน) กก.3 บก.ป.สอบปากคำผู้ร้องและจะประสาน สภ.ท้องที่ช่วยผู้เสียหายต่อไป และให้ไปพบเพื่อให้ความคุ้มครองต่อไป
///////////////////
ผสห.ดาว ประคอง โทร. 0945856712