“….จีนทุ่มกำลังพัฒนากิจการสื่อสารเคลื่อนที่ไปถึงระดับ 5G อย่างสมบูรณ์แบบ เกิดเป็นพลังการผลิตระดับใหม่คุณภาพสูงแผ่กระจายเข้าสู่กระบวนการผลิตเทคโนโลยีสูง ตลอดจนเกษตรกรรมสมัยใหม่และการดำเนินชีวิตยุคใหม่ที่สะดวกสบายล้ำเกินโลกตะวันตก พร้อมกันนั้นก็ได้สร้างสถานีอวกาศของตนเองขึ้นมา และทำการสำรวจดวงจันทร์ล้ำหน้าสหรัฐฯอย่างชัดเจน รวมทั้งได้พัฒนาระบบดาวเทียมนำทาง”เป๋ยโต่ว”ที่ครอบคลุมการใช้งานได้ดีเยี่ยมทั้งบนโลกและบนวงโคจรรอบโลก นายอันตานีอู กูตาเรซ เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติถึงกับออกปากกล่าวกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเมื่อเร็วๆนี้ว่าอนาคตของโลกอยู่ที่การมีส่วนร่วมของประเทศจีน จีนนับว่าเป็นประเทศเดียวจริงๆ ที่ประสบความสำเร็จรอบด้านในการพัฒนาประเทศ สร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนนับพันล้านคน ปัจจุบันนี้ สังคมจีนกลายเป็นสังคมต้นแบบของความเจริญทันสมัย สงบร่มเย็น สะอาดสะอ้าน เจริญหูเจริญตา จนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกโดยรวมแล้ว…”
อนาคตอยู่ที่จีน 未来在中国
ในยุคที่ความจริงเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้นี้ ทั้งผู้เขียนและท่านผู้อ่านต่างพากันมองเห็นเต็มตาเลยว่า ระหว่างโลกตะวันตกกับโลกตะวันออก ในยุคที่ตะวันตกตกต่ำ ตะวันออกทะยานสูงอย่างมีนัยสำคัญนี้ กลุ่มผู้นำในประเทศตะวันตก รวมทั้งญี่ปุ่น มิได้มองอนาคต ไม่ได้กำหนดแนวนโยบายมี่จะพาประเทศไปสู่อนาคต ตรงกันข้าม พวกเขายังติดอยู่กับอดีต หวังจะรั้งกงล้อการขับเคลื่อนของประวัติศาสตร์ให้ย้อนกลับไปสู่อดีตที่ตนเคยรุ่งโรจน์ ขณะที่โลกตะวันออก นำโดยจีนต่างพากันดำเนินนโยบายขับเคลื่อนตัวเองไปสู่อนาคตให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่เพียงเพื่อให้หลุดพ้นจากความล้าหลังยากจนเท่านั้น แต่ยังเพื่อการสร้างอนาคตอันสดใสด้วย
ด้วยเหตุนี้ เราจึงพบว่า ในการดำเนินนโยบายต่างๆของกลุ่มประเทศตะวันตก เช่นกลุ่มG7 นอกจากการตกลงกันในกลุ่มว่าจะร่วมกันครองความเหนือกว่าต่อชาวโลกอย่างไรแล้ว ก็จะไม่ปรากฏแนวเสนอที่เป็นไปเพื่ออนาคตของโลกโดยรวมแต่ประการใด
สรุปคือ พวกเขามองไม่เห็นประโยชน์ของความร่วมมือกับนานาประเทศในการสร้างอนาคตร่วมกัน ตรงกันข้าม กลับพยายามเกาะกลุ่มขัดขวางกระบวนการพัฒนาไปสู่อนาคตของประเทศคู่แข่ง ดังเช่นที่กำลังกระทำต่อจีน ในขณะที่โลกตะวันออกเช่นจีนตั้งความหวังไว้ที่อนาคต พยายามสร้างเพื่อน ขยายวงเพื่อนบนฐานประโยชน์ร่วมกัน และร่วมกันมองไปสู่อนาคต
เราจึงเห็นความผิดวิสัยในการกำหนดนโยบายของสหรัฐฯเช่น”เราจะต้องยิ่งใหญ่อีกครั้ง”หรือ”เราจะไม่ยอมให้ใครแซงหน้าเรา”
ดังนั้น แทนที่จะร่วมกับจีนพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารเคลื่อนที่ 5G กลับพยายามทำลายกิจการ5Gของจีน และยื่นคำขาดให้ประเทศพันธมิตรรื้อถอนอุปกรณ์สื่อสารของจีนทิ้ง แล้วหันไปใช้บริการของกลุ่มบริษัทตะวันตกที่ล้าหลังและแพงกว่า หรือกรณีออกกฎหมายห้ามการติดต่อร่วมมือใดๆกับจีนด้านกิจกรรมอวกาศ ไม่ยอมให้จีนเข้าร่วมโครงการสร้างสถานีอวกาศนานาชาติ เป็นต้น
ผลคือจีนทุ่มกำลังพัฒนากิจการสื่อสารเคลื่อนที่ไปถึงระดับ 5G อย่างสมบูรณ์แบบ เกิดเป็นพลังการผลิตระดับใหม่คุณภาพสูงแผ่กระจายเข้าสู่กระบวนการผลิตเทคโนโลยีสูงเช่น รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ แบตเตอรี่แบบยั่งยืน แผงโซล่าเซลล์อัจฉริยะ ฯลฯ ตลอดจนเกษตรกรรมสมัยใหม่และการดำเนินชีวิตยุคใหม่ที่สะดวกสบายล้ำเกินโลกตะวันตกอย่างชัดเจน
พร้อมกันนั้นก็ได้สร้างสถานีอวกาศของตนเองขึ้นมา และทำการสำรวจดวงจันทร์ล้ำหน้าสหรัฐฯอย่างชัดเจน รวมทั้งได้พัฒนาระบบดาวเทียมนำทาง”เป๋ยโต่ว”ที่ครอบคลุมการใช้งานได้ดีเยี่ยมทั้งบนโลกและบนวงโคจรรอบโลก
มองในเชิงวิวัฒนาการของประวัติศาสตร์ กลุ่มผู้นำประเทศตะวันตก กำลังพาประเทศและประชาชนของตนเดินหลงทาง หลุดจากครรลองการขับเคลื่อนของกระแสประวัติศาสตร์ ห้อตะบึงเข้ารกเข้าพงชนิดไม่ยอมเหลียวหลังแลหน้า
สรุปคือหน้ามืด
ด้วยเหตุนี้กระมัง ที่นายอันตานีอู กูตาเรซ เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติจึงออกปากกล่าวกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเมื่อเร็วๆนี้ว่าอนาคตของโลกอยู่ที่การมีส่วนร่วมของประเทศจีน
นั่นหมายความว่า อนาคตของชาวโลกโดยรวม สอดคล้องกับการขับเคลื่อนของประเทศจีน ความพยายามใดๆที่จะขัดขวางจีน ก็เท่ากับขัดขวางกระบวนการขับเคลื่อนไปสู่อนาคตของชาวโลกโดยรวม
ตรงกันข้ามกับเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ในเวลาใกล้เคียงกันนั้น นายแอนโทนี่ บลิงเก้น รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวในคำปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยปรินส์ตันว่า สหรัฐฯเท่านั้นที่จะเป็นผู้”ปั้น”อนาคตของโลก จะไม่ยอมให้จีนมาแย่งทำอย่างเด็ดขาด
เขาพูดถึงอนาคต แต่ก็ยังเป็นอนาคตแห่งอดีต ที่สหรัฐฯเคยยิ่งใหญ่ และคิดว่าจะต้องยิ่งใหญ่เหนือกว่าใคร และตลอดไป
สำหรับเราที่เข้าถึงความจริง ย่อมไม่มีข้อกังขาใดๆต่อบทบาทความเป็นแกนนำการขับเคลื่อนสังคมโลกไปสู่อนาคตของจีน
ด้วยกระบวนการขับเคลื่อนที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องหลายทศวรรษ จีนนับว่าเป็นประเทศเดียวจริงๆ ที่ประสบความสำเร็จรอบด้านในการพัฒนาประเทศ สร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนนับพันล้านคน
ปัจจุบันนี้ สังคมจีนกลายเป็นสังคมต้นแบบของความเจริญทันสมัย สงบร่มเย็น สะอาดสะอ้าน เจริญหูเจริญตา จนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกโดยรวมแล้ว
ตรงกันข้ามกับสังคมอเมริกันและยุโรป สภาพปัจจุบันเป็นอย่างไร ได้สะท้อนให้เห็นถึงอนาคตหรือไม่ เชื่อว่าทุกคนคงจะได้คำตอบเอง
ไขคำจีน
未来 เว่ยไหล อนาคต