“…‘กระติก-อิจศรินทร์’ รับทราบข้อหาให้การเท็จคดีแตงโมแล้ว พร้อมกับ “สารภาพ” โดย ‘สิระ’ ยันว่าสารภาพหมดเปลือก ขณะที่ฝากบอกอีก 4 คนบนเรือมีอะไรให้มาปรึกษาได้ อย่าหลงทางตามทนายที่แนะไปในทางที่ผิด ‘กระติก’ เผยด้วยว่ายังใช้ชีวิตเป็นปกติได้…”
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2565 น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วนตัวของ แตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาให้การเท็จในคดีแตงโม ที่สภ.เมืองนนทบุรี โดยมีนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม. เป็นผู้นำพา น.ส.อิจฉรินทร์ พร้อมทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อหาและให้ปากคำเพิ่มเติม
ก่อนหน้านั้น ผู้สื่อข่าวถาม น.ส.อิจศรินทร์หรือกระติก ว่า ติดต่อ นายสิระ เพื่อให้พามาหรืออย่างไร และที่ให้ปากคำไม่ตรงกันแต่ละครั้งจริงหรือไม่ มีความเครียดกังวลอะไรหรือไม่ น.ส.อิจศรินทร์ ไม่ตอบคำถามทั้งสิ้น รีบเข้าห้องของผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาทันที
ต่อมาหลังจากให้ปากคำเกือบ 3 ชั่วโมง น.ส.อิจศรินทร์ พร้อมนายสิระ ทนายวิวัฒน์ สมบัติหลาย และนายเกียรติศักดิ์ กล่อมสกุล บิดาของกระติก ได้เปิดแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทันที โดยทนายความเผยว่า วันนี้กระติกได้มารับทราบข้อกล่าวหาให้การเท็จในครั้งแรกและให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
นายสิระ กล่าวว่าตนมาด้วยเหตุที่น้องกระติกดูจากผลงานที่ตนทำให้กับลุงนิด เกิดความเชื่อมั่นในตนและทีมกฎหมาย ตอนนี้น้องกระติกให้การรับสารภาพอย่างหมดเปลือก ทุกซอกทุกมุมเป็นประโยชน์กับรูปคดีและสังคม คนที่แสวงหาประโยชน์จากคดีนี้จะได้ยุติเสียที ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 คนก็ขอฝากไปด้วยว่าอะไรที่ไม่ได้พูดความจริงก็พูดความจริง เพราะความจริงหนีไม่พ้นเรื่องจริง อะไรที่ไม่จริงหรือจริงน้องกระติกก็พูดไปหมดแล้ว หากไปเชื่อทนายแนะนำในสิ่งที่ผิด คนรับกรรมก็อาจจะเป็นคุณ ถ้าคิดอะไรไม่ออกให้มาปรึกษาตนได้
นายสิระ กล่าวอีกว่าคำให้การครั้งแรกของคนบนเรือ มีทีมอ้างเป็นทนายบอกให้ทุกคนให้การไปในทิศทางเดียวกัน จึงคิดว่าแนะนำไปในสิ่งที่ถูก แต่สุดท้ายพาหลงทาง จึงมาปรึกษาตนและให้คำแนะนำไป ตำรวจชมกระติกให้ความร่วมมือและให้การเป็นประโยชน์ จนมีวันนี้ขึ้นมา ทำให้กระติกเชื่อมั่นตนและให้พามาพบตำรวจ
“กระติกเชื่อทีมกฎหมายชื่อ เอ็ม จึงต้องรับกรรมไป เรื่องนี้ให้การตรงกันครั้งแรกเหมือนกันทั้ง 5คน แต่จากนั้นกระติกนึกอะไรได้ก็มาให้การเพิ่มเติม จากนี้ก็เตรียมปิดคดีแล้ว” นายสิระ กล่าว
ด้าน น.ส.อิจศรินทร์ หรือ กระติก กล่าวว่า ขอยืนยันว่าให้ปากคำตำรวจมาตลอด ไม่เคยให้การกลับไปกลับมา แต่บางอย่างอาจจำไม่ได้ พอจำได้ก็ให้การเพิ่มเติม ชีวิตตอนนี้ยังไปส่งลูกปกติ ยังใช้ชีวิตปกติ ที่มีข่าวว่าไม่กล้าออกจากบ้านนั้นไม่จริง ส่วนเรื่องงานยังเป็นพนักงานอยู่ และอยากสางเรื่องคดีก่อน เพราะต้องให้ปากคำเพิ่ม ยอมรับว่าเครียดที่เสียเพื่อนไป ตอนนี้คดียังไม่คลี่คลายและโดนกระแสโจมตี
“กระติก” กล่าวอีกว่า ไม่กลัวโดนข่มขู่เพราะเป็นเพื่อนกันทั้งหมด ไม่เคยกลัวอยู่แล้ว ส่วนที่แอนนาโพสต์อะไรยังไม่ทรราบและยังไม่ได้แจ้งความใคร ไม่อยากพาดพิงถึงคนอื่น
เมื่อถามว่าทนายชื่อเอ็มมาบงการอะไร กระติก กล่าวว่า อะไรที่เราไม่รู้และเราพูดก็ถือว่าผิด จริงก็ว่าจริง แต่เราพูดในสิ่งที่เราไม่รู้ ก็ทำร้ายเราได้เช่นกัน เมื่อถามถึงประเด็นแตงโมปัสสาวะที่ด้านท้ายเรือ กระติก ตอบว่า ต้องตัดไปเลย เพราะไม่เคยพูดแต่แรก เนื่องจากแซน เป็นคนบอก ตนไม่เคยให้การว่าเห็นแตงโมปัสสาวะท้ายเรือ
ต่อคำถามถึงเรื่องแตงโม กระติก กล่าวว่า “กระติกรักแตงโมหรือไม่ คนในบ้านจะรู้อยู่แล้ว อย่างคุณพ่อก็จะรู้ ไม่เช่นนั้นไม่อยู่กันนานได้นับยี่สิบปีหรอก”
ส่วนก่อนหน้านี้ เวลา 13.00 น.นายนิทัศน์หรือจ๊อบ กีรติสุทธิสาธร ผู้ต้องหาอีกคนที่ถูกตั้งข้อหาผิดพ.ร.บ.เดินเรือ มาตรา 119 และ ทำลายหลักฐาน มาตรา 184 ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาและให้การปฏิเสธ
นอกจากนี้ทางพนักงานสอบสวนเตรียมขออนุมัติหมายจับผู้บงการคนบนเรือสปีดโบ๊ตทั้ง 5 คนในการชี้แนวทางการให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนครั้งแรกในทิศทางเดียวกัน