เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 สิงหาคม 2567 ที่อาคารที่ทำการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน2 ตำบลหนองข้างคอก อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี พลตำรวจโท ไตรรงค์ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พลตำรวจโทสมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค2 นายยุทธนาืรัตนประดิษฐ์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค2 พร้อมตำรวจในสังกัดตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรภาค2 ได้เดินทางมาร่วมพิธีเปิดที่ทำการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน2 แห่งใหม่ ซึ่งเป็นอาคาร 4 ชั้น ก่อสร้างด้วยวงเงินงบประมาณการก่อสร้าง 78 ล้านบาท บนพื้นที่ราชพัสดุจำนวน 6.5 ไร่ ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี ตั้งอยู่ด้านข้างอาคารสำนักงานตำรวจภูธร 2
โดยในช่วงเช้า พล.ต.ต.ฉัตรชัย นันทมงคล ผบก.สพฐ 2 ได้จัดให้มีพิธีสงฆ์ เพื่อเป็นสิริมงคลในการเปิดอาคารแห่งใหม่ มีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการตรวจพิสูจน์หลักฐานในภาคตะวันออกที่มีมาตรฐาน 2. เพื่อเป็นหน่วยงานสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ตำรวจภูธร2 ในการแก้ปัญหาอาชญากรรม ซึ่งมีปริมาณมาก 3. เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาศักยภาพองค์ความรู้ ฝึกอบรม ด้านพิสูจน์หลักฐานจากหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิการฝึกอบรมหลักสูตร FBI และ AFP
พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการศูนย์พิสูจน์หลักฐานตำรวจ กล่าวบางช่วงบางตอนว่า“ ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เริ่มต้นตั้งแต่ การตรวจลายพิมพ์นิ้วมือ ต่อมาเราได้พัฒนางาน มาตามลำดับความเจริญ ในด้านวิทยาศาสตร์ มาเรื่อยยกระดับจากหน่วยงาน การพิสูจน์หลักฐาน ในกองบังคับการ ซึ่งสมัยก่อนมีแค่ส่วนกลาง ก็ได้กระจายงานพิสูจน์หลักฐาน มาจนปัจจุบันกองพิสูจน์หลักฐานมีทั่วทุกจังหวัด เพื่อสนับสนุน งานสอบสวน งานสืบสวนเพื่อให้พี่น้องประชาชนให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมทุกระดับชั้น ศาลยุติธรรม ผู้พิพากษา ให้มั่นใจว่าหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ฝ่ายสอบสวน ได้ทำการรวบรวมมา มีข้อมูลพื้นฐานทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ เป็นที่ยอมรับในสากล โดยเฉพาะกลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุเป็นความภาคภูมิใจที่เราได้รับมาตรฐานระดับISO เป็นมาตรฐานสากล ทุกศูนย์ทั่วประเทศและในระดับจังหวัดได้มีการยกระดับเอามาตรฐาน ISO ลงไปตรวจทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นขอให้พี่น้องประชาชน ผู้บังคับการตำรวจ รองผู้บังคับการ ผู้กำกับการสถานีตำรวจที่มาร่วมงาน ได้มั่นใจว่าตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ออกไปตรวจที่เกิดเหตุตามคำร้องของพนักงานสอบสวนืหรือฝ่ายสืบสวนก็ตาม เรามีมาตรฐานในการทำงานระดับISO
พลตำรวจโทไตรรงค์ กล่าวอีกว่า งานพิสูจน์หลักฐานเราเป็นแบบมืออาชีพ เราจะไม่มีการพิสูจน์หลักฐานหาตัวคนร้ายผู้กระทำความผิดด้วยระบบดั้งเดิมแบบ “ตาต่อตาฟันต่อฟัน” ในสมัยโบราณต่อไป มันหมดยุคไปแล้ว เชื่อว่าพวกเราจะเป็นกลไกชิ้นหนึ่ง เฟืองตัวเล็กๆ ในการขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรม
ในกระบวนการชั้นต้นของตำรวจคือการสืบสวนจับกุมอย่างมีคุณภาพ ที่สำคัญเป็นวิทยาศาสตร์พิสูจน์ ปัจจุบันอาชญากรรมด้านเทคโนโลยีมีสูง ปีนี้มีตัวเลข 400,000 กว่าเคสแล้ว ยังไม่ได้แปลงเป็นเลขคดี ฉะนั้นทุกเคสจะนำไปสู่การตรวจพิสูจน์ในด้านนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ การกระทำความผิดของคนร้ายต่อไปจะหนักทางคอมพิวเตอร์ ผมเชื่อว่าอนาคตอันใกล้ สตช.จะอนุมัติกรอบอัตรา นักวิทยาศาสตร์ที่จะมาตรวจด้านคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น ที่ประเทศอเมริกา จนท.CSI มีประจำอยู่ที่สถานีตำรวจ เชื่อว่าในอนาคตเราจะมีการขยายอัตราและตัวเลข ลงไปในสถานีตำรวจหลักๆ”
