วันนี้ ( 23 ส.ค.67 ) เวลา 13.30 น. ที่ด่านศุลกากรจันทบุรี ตำบลปัถวี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี นายวิสุทธิ์ ประกอบความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนายพงษ์ศักดิ์ ธนะวัฒนานนท์ นายด่านศุลกากรจันทบุรี นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอเมืองจันทบุรี พ.ด.อ.สุเทพ ไพบูลย์ผล รอง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี ฯลฯ ร่วมเป็นประธานทำลายของกลางบุหรี่ไฟฟ้าที่คดีลิ้นสุดแล้ว จำนวน 15,242 ชิ้น มูลค่า2,801,468.65 บาท
โดยมีนางสาวณัฏฐิญา สุขเสงี่ยม ผู้อำนวยการโรงเรียนมะขามเสริญ นายพงศ์พันธ์ เจริญผล ผู้อำนวยการโรงเรียนตกพรมวิทยาคาร ร่วมเป็นสักขีพยานในการทำลายของกลางดังกล่าว
สืบเนื่องจากนโยบายของนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร และนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ให้เร่งป้องกันและปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า อันเป็นพิษร้ายทำลายเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะมีส่วนเข้ามาทำลายการศึกษาและเยาวชนที่จะเป็นอนาคตของประเทศชาติ ผู้ที่นำเข้า จำหน่าย ครอบครอง เสพ หรือสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งบุหรี่ฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากูไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้าราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2557 จึงเป็นความผิดมาตรา 242 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 โดยการลักลอบจำหน่าย หรือครอบครอง เป็นความผิดตามมาตรา 246แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินเงิน ราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ
บุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่ทำลายในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของของกลางที่หน่วยงาน ศุลกากร เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง เช่น หน่วยงานปกครองของอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดจันทบุรี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.จันทบุรี) ได้ประสานงานการจับกุมร่วมกันเกินกว่า 40,000 ชิ้น มูลค่ารวม 6 ล้านบาท
