สำหรับบริษัทดังกล่าวนั้น อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ก่อตั้งมาได้สักระยะแล้ว อ้างว่าทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีเอกสารรับรองจากหน่วยงานราชการ เช่น สคบ. ได้เชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมลงทุน โดยบอกว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นมีความเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีแผนการตลาดที่ดี มีการการันตีเงินปันผลที่จะได้รับโดยจะแบ่งผลประโยชน์ให้กับผู้ร่วมลงทุน 12% ทุก 10 วัน ช่วงแรกก็ได้เงินปันผลตามตกลง แต่ภายหลังก็ไม่มีการจ่ายให้ผู้ร่วมลงทุน จนมีผู้เสียหายกว่า 8,000 คน มูลค่าความเสียหายหลายพันล้าน ประเมินแล้วมีความเสียหายมากกว่ากรณีของ ดิไอคอนกรุ๊ป ถึงกว่า 4 เท่า
วันนี้จึงมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน รวมทั้งตำรวจสอบส่วนกลาง เพื่อให้ตรวจสอบกรณีนี้ และขอวิงวอนให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ให้ความสำคัญกรณีนี้ ดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าวเพราะมีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่ชัดเจน
นอกจากนี้ “เคนโด” ยังได้ชี้แจงกรณีที่ ”อาจารย์อ๊อด“ มาแจ้งความดำเนินคดีตนว่าเคยไปเกี่ยวข้องกับ ดิไอคอนกรุ๊ป ว่าตนเองไม่ได้อยู่ใน ดิไอคอนกรุ๊ป มา 4-5 ปีแล้ว ไม่ได้อยู่ในไอคอนกรุ๊ปมา 4-5 ปีแล้ว โดยขณะนั้น “บอสพอล” โทรศัพท์มาหาตน เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการทำธุรกิจ และชักชวนทำธุรกิจด้วย แต่ปรากฎว่า “บอสพอล” ไม่ได้ทำตามแนวทางที่ได้แนะนำไว้ จึงถอนตัวออกมา เพราะเห็นว่าในอนาคตมีแนวโน้มไปในแนวทางที่ไม่ดี
อยากให้ “อาจารย์อ๊อด” ดูตัวเองด้วย เพราะทราบมาว่า “อาจารย์อ๊อด” เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทขายตรงแห่งหนึ่ง โดยเอาตำแหน่งทางวิชาการมาการันตีว่าสินค้าของบริษัทดังกล่าวดี 100 % ถ้าไม่ใส่จริง ก็อย่ามาว่าคนอื่น ไม่ตัองมาปั่น จากนี้ก็จะใช้สิทธิ์ทางกฎหมายฟ้องร้องกับคนที่ใส่ร้ายตนเอง ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต่อไป