ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายนั้น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 จึงสั่งการกำหนดให้มีการระดมกวาดล้างปิดล้อมตรวจค้นแคมป์ที่พักคนงานก่อสร้างในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อให้การปฏิบัติราชการตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน
ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร รอง ผบก.ตม.2 รรท.ผกก.ตม.จว.จันทบุรี จึงสั่งการให้งานสืบสวนปราบปรามตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี นำโดย พ.ต.ท.ศวัส โชติรณพัส รอง ผกก.ตม.จว.จันทบุรี และ พ.ต.ท.นิพนธ์ เรืองสม สว.ตม.จว.จันทบุรี บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ในการปฏิบัติตามข้อสั่งการโดยในวันนี้ (6 พ.ย.67) เวลา 06.30 น. ตม.จว.จันทบุรี ได้บูรณาการร่วมกับจัดหางานจังหวัดจันทบุรี กอ.รมน.จังหวัดจันทบุรี กก.สืบสวน ภ.จว.จันทบุรี กก.ตชด.11 และ สภ.เมืองจันทบุรี รวมกำลังเจ้าหน้าที่ จำนวน 30 นาย ปล่อยแถวระดมกวาดล้างและเข้าปิดล้อมตรวจค้นแคมป์คนงานก่อสร้าง จำนวน 2 แห่ง ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี
จากการปิดล้อมตรวจค้นดังกล่าว ได้ทำการจับกุมแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ผิดกฎหมาย รวมจำนวน 25 ราย โดยจับกุมในข้อหา “เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จำนวน 21 ราย และจับกุมในข้อหา “อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” (Overstay) จำนวน 4 ราย อีกทั้งยังตรวจพบคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา จำนวน 4 ราย ยังไม่มีการแจ้งที่พักอาศัยฯ ตาม ม.38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จึงดำเนินการจับกุมและเปรียบเทียบปรับคนไทยหัวหน้าคนงานก่อสร้าง จำนวน 1 ราย โดยกล่าวหาว่า “เป็นเจ้าบ้าน เจ้าของหรือผู้ครอบครองของเคหสถาน รับคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเข้าพักอาศัย โดยไม่แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ภายใน 24 ชั่วโมง” และจากการสุ่มตรวจสารเสพติดในร่างกายของแรงงานต่างด้าวกัมพูชาดังกล่าว ทั้งหมดไม่พบสารเสพติดในร่างกายแต่อย่างใด ทั้งนี้ได้ประชาสัมพันธ์ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี โดย พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร รอง ผบก.ตม.2 รรท. ผกก.ตม.จว.จันทบุรี ได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี ปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด และติดตามข่าวสารสถานการณ์สำคัญ เพื่อตอบสนองนโยบายของผู้บังคับบัญชา และนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป