เวลา 12.00 น. วันที่ 21 พ.ย.67 สำนักงาน ป.ป.ท. นำโดยนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมด้วย พ.ต.ท. สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นางสาวอรณิช สุขบาล ผอ. ปปท. เขต 2 พ.ต.ท. วิโรจน์ มีดา นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ พ.ต.ท. ภวิษณ์พร วณิชย์นรานนท์ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมกับ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต. ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. และ พ.ต.อ. สิทธิพร กสิ ผกก.2 บก.ปปป. เข้าจับกุมนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสำนักทอง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2
สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2567 ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ได้เข้าไปประมูลงานโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก สายเขามะกอก หมู่ที่ 4 ของ อบต.สำนักทอง ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ในราคา 835,000 บาท ต่อมา อบต.สำนักทอง ได้แจ้งให้ผู้เสียหายเข้าไปลงนามทำสัญญาก่อสร้างในวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ซึ่งในวันดังกล่าว นายก อบต.สำนักทอง มีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้เสียหาย จำนวน 13 % จากจำนวนเงินในสัญญาจ้างที่หักภาษีแล้ว คิดเป็นเงินจำนวน 100,434 บาท ต่อมาวันที่ 21 ตุลาคม 2567 นายก อบต.สำนักทอง ได้โทรศัพท์มาแจ้งผู้เสียหายให้เข้ามารับเช็คค่าก่อสร้าง โดยให้นำเงินสดจำนวน 100,434 บาท มามอบให้แก่ตนด้วย ผู้เสียหายเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการทุจริต จึงได้นำเรื่องมาร้องเรียนกับสำนักงาน ป.ป.ท. เพื่อขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน ต่อมาเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ผู้เสียหายได้เจรจาต่อรองกับนายก อบต.สำนักทอง เพื่อขอลดจำนวนเงิน เหลือ 100,000 บาท และได้มีการนัดหมายให้ผู้เสียหายนำเงินสดมามอบให้แก่นายก อบต.สำนักทอง ในวันนี้ (วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567) สำนักงาน ป.ป.ท. จึงได้ประสานงานกับ บก.ปปป. รวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การขออนุมัติศาลออกหมายจับ และได้ร่วมปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าว โดยสามารถจับกุมได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลสำนักทอง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ซึ่งหากพบพยานหลักฐานหรือเงินที่ได้รับจากผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ก็จะมีการขยายผลการดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าแสดงตัวและแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายก อบต.สำนักทอง จำนวน 4 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต,เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ
“ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”
“ความผิดดังกล่าว เกิดจากการกระทำส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต้นสังกัด”