วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 5, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมพลตำรวจตรีมนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ "ทนายตั้ม" กรณีร่วมกันฉ้อโกงเงินของ "มาดามอ้อย"

Related Posts

พลตำรวจตรีมนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ “ทนายตั้ม” กรณีร่วมกันฉ้อโกงเงินของ “มาดามอ้อย”

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้เข้าไปแจ้งข้อหา “ทนายตั้ม” ภายในเรือนจำเพิ่มเติม 7 ข้อหา เกี่ยวกับการร่วมกันฉ้อโกงเงิน 39 ล้านบาท , แจ้งความเท็จ , นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ , ฟอกเงิน และ สมคบกันฟอกเงิน

อย่างไรก็ตาม “ทนายตั้ม” ยังคงให้การปฏิเสธ และกล่าวอ้างถึงพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่พนักงานสอบสวนต้องสืบสวนสอบสวนต่อไปตามขั้นตอน นอกจากนี้ก็เตรียมเข้าแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายนุวัฒน์ หรือ นุ และนางสาวสารินี หรือ แซน คนสนิทของทนายตั้มในเรือนจำต่อไป

สำหรับการสืบสวนคดีนี้ตำรวจดำเนินการในทุกมิติ และสำนวนคดีมีความคืบหน้ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว และอยู่ระหว่างเร่งรัดส่งสำนวนให้อัยการให้ทันฝากขังผู้ต้องหาผัดที่ 3-4 ทั้งนี้เชื่อว่าอาจมีผู้ถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม

ส่วนกรณีพินัยกรรมของ “มาดามอ้อย” ที่ “ทนายตั้ม” เป็นผู้จัดการมรดก และ “มาดามอ้อย” ได้ขอยกเลิกไปแล้วนั้น เบื้องต้นยังไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษประเด็นดังกล่าว จึงยังไม่อยู่ในสำนวนการสืบสวนสอบสวน

นอกจากนี้พลตำรวจตรีมนตรี ยังเปิดเผยความคืบหน้าการออกหมายเรียก “ฟิล์ม รัฐภูมิ” เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ว่า ได้ออกหมายเรียกไปแล้ว และส่งไปยังที่อยู่ตามภูมิลำเนา ซึ่งเป็นช่องทางตามกฎหมาย นัดหมายให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนในวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายนนี้ แต่เบื้องต้นยังไม่มีการประสานติดต่อว่าจะเข้าพบมา มีเพียงที่เคยส่งทนายความมาลงบันทึกประจำวันก่อนที่จะมีการออกหมายเรียก เพื่อแจ้งยืนยันว่าไม่ได้หลบหนี

ทั้งนี้หาก “ฟิล์ม” จะเข้าพบพนักงานสอบสวนก่อนวันนัด หรือมานอกเวลาราชการ ก็สามารถเดินทางมาได้ ทางตำรวจยินดี และการมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ไม่ใช่การจับกุม ดังนั้นคงไม่มีการควบคุมตัว และเป็นเหตุให้ต้องประกันตัวใดๆ

ส่วนคดีของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช พลตำรวจตรีมนตรีเทศขันเปิดเผยว่า กรณีที่เมื่อวันที 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมที่กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามในข้อหากรรโชกทรัพย์ โดยบอกว่านายสามารถไปเรียกรับเงินเดือนละ 30,000 บาทนั้น ตำรวจยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ยังไม่ถึงขั้นตอนการสอบปากคำนายสามารถในเรือนจำ ส่วนคดีอื่นๆ ที่อาจเชื่อมโยงกับเส้นทางการเงินที่ตำรวจพบนั้น ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มเติม

ขณะที่คดีของนางสาวกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ที่เรียกรับเงินจาก “บอสพอล” ดิไอคอน กรุ๊ป 7.5 ล้านบาท ที่เมื่อวานนี้ทนายความของ “บอสพอล” เข้าให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติมนั้น ก็เป็นการให้ปากคำเพิ่มเติมตามความต้องการของทนายความ “บอสพอล” ส่วนประเด็นที่อ้างว่าในคลิปเสียงมีการอ้างถึงข้าราชการระดับผู้อำนวยการของหน่วยงานหนึ่ง ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบความชัดเจนว่าเป็นการแอบอ้าง หรือรู้เห็นกับการกระทำความผิดด้วย แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts