สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ กก.2 บก.สอท.4 ว่าเมื่อ 4-5 เดือนที่ผ่านมา ตนได้กู้เงินมาจากนางแอ๊ด 30,000 บาท โดยเอารถกระบะไปจำนำไว้ จะกู้เงิน 30,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 120 ต่อปี ซึ่งตามกฎหมายให้ไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี มีระยะเวลาคืนเงินต้น 30 วัน แต่ด้วยความจำเป็นจึงต้องนำรถไปจำนำไว้ ตัวผู้เสียหายเองมีอาชีพค้าขาย รายได้ไม่ค่อยดี
นอกจากนี้ยังโดนหักค่าฝากจอด 1,000 บาท หักดอกเดือนแรก 3,000 บาท หักค่าทำสัญญาอีก 1,000 บาท รวม 5,000 บาท ได้เงิน 25,000 บาท ต้องส่งดอก 3,000 บาท ต่อเดือนอีก เดือนไหนส่งช้า ก็ถูกข่มขู่จะขายรถ จะทำร้าย จะประจาน แต่ก็ต้องอดทนเพราะก็ไปจำนำเอง เมื่อผู้เสียหายเอาเงินต้นไปส่ง พร้อมดอกเบี้ยเพื่อจะเอารถคืนปรากฎว่าเจ้าแม่แอ๊ดตุกติก ไม่ยอมคืนรถให้ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ผู้เสียหายจึงมาร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร.รรท.ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 และ พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 ให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อตรวจสอบเจ้าแม่เงินกู้รายดังกล่าว
ต่อมาวันที่ 10 ธ.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 ไปตรวจตามที่ได้รับร้องเรียน ปรากฎว่าสถานที่รับจำนำมีการเปิดเป็นร้านขายอาหารบังหน้า ด้านหลังร้านเป็นโกดังจอดรถที่รับจำนำ และพบนางแอ๊ดเจ้าแม่เงินกู้นั่งอยู่ที่ร้านอาหาร จากการสอบถามนางแอ๊ดรับสารภาพว่าตนปล่อยเงินกู้โดยการรับจำนำรถจริง และได้พาเจ้าตำรวจไปตรวจสอบภายในโกดังด้วยความสมัครใจ พบยานพาหนะที่รับจำนำไว้ทุกประเภท รถกระบะ, รถเก๋ง, รถ SUV, รถจักรยานยนต์ ไม่เว้นรถที่ใช้ในงานกสิกรรม ร่วม 20 คัน จึงได้ทำการจับกุมข้อหา “ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับทางการค้าเป็นปกติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังในลักษณะอำพราง (รับจำนำรถยนต์) และให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (หมายเหตุ ดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนด ร้อยละ 15 ต่อปี)” นำตัวส่ง สภ.เมืองกำแพงเพชร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป