กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.,พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป,พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป.,พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์, พ.ต.ท.ธนศักดิ์ สว่างศรี, พ.ต.ท.อภิชน ขันกา และพ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์ รอง ผกก.1 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป. ,ร.ต.อ.ชวรินทร์ แหล่งท้าน รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป., ด.ต.สมศักดิ์ สืบสาย, จ.ส.ต.อดิศักดิ์ จันทร์คง, จ.ส.ต.พิสิษฐ์ บุดดีเฆ่, จ.ส.ต.นพพล พุแค, จ.ส.ต.เจษฎา อาจน้อย และ ส.ต.อ.คุณานนท์ สาดสูงเนิน ผบ.หมู่ กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย ดังนี้
1.นายวีรภัทรฯ อายุ 30 ปี
2.นายมีนทฎาฯ อายุ 23 ปี
โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับในทางการค้าปกติ โดยไม่ได้ขออนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด”
สถานที่จับกุม ด้านหลังอาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม ถนนเทียมร่วมมิตร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดยุทธการ “CIB ขยี้อิทธิพล” ปฏิบัติการปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และแก๊งอาชญากรรมทั่วประเทศนั้น มีคดีที่น่าสนใจหลายคดีที่ผู้บังคับบัญชาเห็นควรนำมาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆในส่วนของคดีนี้นั้นเกี่ยวข้องกับแก๊งเงินกู้นอกระบบที่มีพฤติกรรมแสดงอิทธิพลข่มเหงรังแกลูกหนี้ให้ได้รับความหวาดกลัวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ก่อนการจับกุมได้มีผู้แจ้งเบาะแสมายัง กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ว่าที่บริเวณศูนย์อาหารชั้นล่างของอาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม ถนนเทียมร่วมมิตร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร มักจะมีแก๊งเงินกู้นอกระบบมาเก็บเงินจากพ่อค้าแม่ค้าที่เปิดร้านอาหารอยู่ที่บริเวณดังกล่าว หากไม่มีเงินให้ หรือจ่ายช้า ก็จะถูกประจาน ข่มขู่ บางครั้งมีปากเสียงถึงขั้นใช้มือผลักอกทำร้ายผู้เสียหาย พร้อมทั้งประกาศว่าตัวเองเป็นเงินกู้โต๊ะใหญ่ ไม่กลัวตำรวจ ทั้งที่บริเวณดังกล่าวอยู่ภายในสถานที่ราชการ
ผู้บังคับบัญชาจึงได้มอบหมายให้ ว่าที่ พ.ต.ท.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม หัวหน้าชุดปฏิบัติการณ์ที่ 1-1 กก.1 บก.ป. นำทีมสืบสวนเข้าตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พบว่ามีการกระทำความผิดตามที่ได้รับการร้องเรียนจริง โดยแก๊งเงินกู้นอกระบบดังกล่าวมีชื่อว่า “โต๊ะแฟลช & ฟลุ๊ค” และสามารถระบุตัวลูกหนี้ได้จำนวน 3 ราย จึงได้ซักปากคำรวบรวมข้อมูล เพื่อวางแผนจับกุมปราบปราม พบว่าแก๊งดังกล่าวมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา และมักจะมาเก็บงวดค่าเงินกู้เป็นประจำทุกวันช่วงเวลาพักกลางวัน โดยจะขับรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 2 คน สวมหมวกกันน๊อคเต็มใบ เมื่อเก็บเงินได้แล้วก็จะขึ้นรถจักรยานยนต์ขับขี่ออกไป
ต่อมา ว่าที่ พ.ต.ท.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการณ์ที่ 1-1 กก.1 บก.ป. วางกำลังโดยรอบลานจอดรถภายในกระทรวงวัฒนธรรมซึ่งคนร้ายมักจะมาจอดรถ ณ บริเวณดังกล่าวอยู่เป็นประจำก่อนจะเดินลงไปทวงหนี้จากผู้เสียหาย จากนั้น ได้มีชาย 2 คนสวมหมวกกันน๊อคเต็มใบ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ 155 สีแดง กรุงเทพมหานคร ลักษณะตรงตามข้อมูลที่ได้จากการสืบสวนก่อนหน้านี้ มาจอดที่บริเวณลานจอดรถดังกล่าว จากนั้นได้เดินลงไปยังศูนย์อาหารชั้นใต้ดินของอาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ เพื่อทำการเก็บเงินกู้ และดอกเบี้ย จากกลุ่มลูกหนี้ โดยขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งแฝงตัวติดตามคนร้ายทั้ง 2 ไป ได้สังเกตการณ์อยู่โดยตลอด
หลังจากเห็นว่าคนร้ายทั้ง 2 ได้ทำการเก็บเงินเสร็จสิ้นแล้ว ขณะที่คนร้ายกำลังเดินกลับมาที่รถจักรยานยนต์เพื่อจะขับขี่ออกไปนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้สัญญาณกันในชุดบุกเข้าชาร์จตัวคนร้าย แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจค้น พบธนบัตรรัฐบาลไทยที่กระเป๋าของคนร้ายมีหมายเลขตรงกันกับธนบัตรฯที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนการจับกุม ยืนยันว่าคนร้ายทั้ง 2 รายได้กระทำความผิดจริง ทราบชื่อคนร้ายคือ นายวีรภัทรฯ หรือแฟลช และนายมีนทฎาฯ หรือฟลุ๊ค
จากการซักถามคนร้ายทั้ง 2 ให้การยอมรับว่ามีการให้กู้ยืมเงินแก่กลุ่มผู้เสียหายโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย และเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดจริง โดยตนเองนั้นจะหาลูกค้าซึ่งต้องการจะกู้ยืมเงินนอกระบบมาให้กับนายทุนชื่อ แกรม ไม่ทราบชื่อสกุลจริง เมื่อลูกค้ากู้สำเร็จตนเองจะได้ส่วนแบ่งเป็น % จากนายทุน และมีหน้าที่ในการวิ่งเก็บงวดเงินกู้รายวันส่งนายทุนอีกทอดหนึ่ง โดยในกลุ่มแก๊งดังกล่าวจะมีผู้ที่ทำหน้าที่วิ่งเก็บงวดเงินกู้รายวันหลายราย จะมีการแบ่งสายในการวิ่งเก็บเงินกู้ไม่วิ่งทับสายกัน ซึ่งสายของผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้มีชื่อว่า ทรัพย์หลักชัย 5 มีคนชื่อ นายเตย ไม่ทราบชื่อสกุลจริงทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการเพิ่มยอดจากลูกค้า และมีคนชื่อ นายตั้ม ไม่ทราบชื่อสกุลจริงเป็นที่ปรึกษาคอยดูแลสายทรัพย์หลักชัย 5 ในการวิ่งเก็บงวดเงินกู้อีกที โดยมี นายแกรม ไม่ทราบชื่อสกุลจริงเป็นหัวหน้าแก๊งของสมาชิกทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะได้ทำการรวบรวมข้อมูลขยายผลต่อไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิให้ นายวีรภัทรฯ หรือแฟลช และนายมีนทฎาฯ หรือฟลุ๊ค ทราบ จากนั้นทำบันทึกจับกุมรวมรวมเอกสารพยานหลักฐานนำตัวนายวีรภัทรฯ และนายมีนทฎาฯ พร้อมของกลาง จำนวน 6 รายการ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายในข้อหา “ร่วมกันประกอบธุรกิจให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับในทางการค้าปกติ โดยไม่ได้ขออนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด”
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ว่าที่ พ.ต.ท.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป.
หมายเลขโทรศัพท์ 094-391-4940