เมื่อเวลา 18.45 น. วันที่ 15 ธ.ค. พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รองผบก.น.6 พ.ต.อ.ภาวัต วรรธสุภัทร ผกก.สน.พระราชวัง พ.ต.ท.เสกสรรค์ ชุ่มแจ่ม รองผกก.จร.สน.พระราชวัง พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา รอง ผกก.สส.สน.พระราชวัง พ.ต.ท.พลาวัสถ์ คนกล้า สว.สส.สน.พระราชวัง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ สส.สน.พระราชวัง ร่วมกันจับกุมนายบรรพต แหยมทัด อายุ 29 ปี พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นจีออราโน่ สีขาว-ดำ ทะเบียน 7ขฐ4979 กรุงเทพมหานคร จับกุมได้ที่บริเวณถนนท้ายวัง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบผลคดีอาญาพบว่า นายบรรพต แหยมทัด มีประวัติเคยกระทำความผิดคดีอาญา 2 ครั้ง เหตุลักทรัพย์ ปี 2557 สภ.สามง่าม ภ.จว.พิจิตร และเหตุฝ่าฝืนประกาศกำหนดอาหารที่ห้ามผลิตห้ามนำเข้าหรือห้ามจำหน่าย ปี2566 สน.ชนะสงคราม
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2567 เวลาประมาณ 14:30 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนสน.พระราชวัง รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ น.ส.แอนนา เปโตรวา อันรีฟนา (MissANNA PETROVA ANDREEVNA) อายุ 25 ปี สัญชาติ รัสเซีย เงินสด จำนวน รวมราคา 15,000 บาท ขณะที่ผู้เสียหายกำลังยืนรอรถจักรยานยนต์รับจ้างที่เรียกผ่านแอพลิเคชั่นขับรถรับจ้างชื่อดัง (โบลท์) เพื่อไปวัดสระเกศ ปรากฏว่าผู้ต้องหาซึ่งเป็นชายไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริงได้ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นจีออราโน่ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนมาจอดด้านหน้าของผู้เสียหาย เมื่อสอบถามว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่ผู้แจ้งเรียกมาหรือไม่ ผู้ต้องหาก็บอกว่าใช่
จากนั้นได้บอกให้ผู้แจ้งส่งกระเป๋าสะพายให้ เพื่อที่ผู้ต้องหาจะนำไปแขวนไว้ด้านหน้ารถเพื่อป้องกันการถูกวิ่งราว จากนั้นผู้ต้องหาได้พาผู้แจ้งขี่รถวนบริเวณรอบพระบรมมหาราชวังแล้วนำผู้เสียมาส่งไว้บริเวณถนนท้ายวังข้างวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม จากนั้นผู้ต้องหาได้บอกกับผู้แจ้งว่าตนเองไม่ใช่พนักงานขับรถที่ผู้แจ้งจ้างผ่านแอพลิเคชั่นแต่อย่างใด จากนั้นได้ขอให้ผู้แจ้งเปิดแอพลิเคชั่นดังกล่าวให้ดู พร้อมทั้งได้ทำทีโทรศัพท์ไปพูดคุยกับพนักงานขับรถของแอพลิเคชั่นที่ผู้แจ้งว่าจ้างและบอกกับผู้แจ้งว่าพนักงานขับรถคนดังกล่าวกำลังจะมาถึงแต่เมื่อผู้แจ้งเปิดดูประวัติการโทรก็พบว่าไม่มีการโทรศัพท์ไปพูดคุยแต่อย่างใด เนื่องจากมีการยกเลิกการโทร
เมื่อผู้เสียหายตรวจตอบกระเป๋าสะพายที่ได้รับคืนจากผู้ต้องทาก็พบว่าเงินสดจำนวน 15,000 บาท ที่ใส่ไว้ภายในได้สูญหายไป จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับชายไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริงตังกล่าวในความผิดฐานลักทรัพย์เพื่อให้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด แต่เนื่องจากผู้เสียหายอยู่ในประเทศไทยในระหว่างวันที่ 7 ถึง 18 ธ.ค. 2567 จากนั้นจะต้องเดินทางกลับประเทศรัสเซีย จึงขอมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระราชวังเป็นผู้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดีนี้ เพื่อให้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ต่อมาชุดสืบสวนสน.พระราชวัง สืบทราบว่าผู้ก่อเหตุดังกล่าวคือ นายบรรพต อายุ 29 ปี ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นจีออราโน่ สีขาว-ดำ ทะเบียน 7ขฐ4979 กรุงเทพมหานคร ต่อมาวันนี้ นายบรรพตขับรถจักรยานยนต์ คัดดังกล่าวโดยใช้ตุ๊กตามาปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน มาที่บริเวณถนนท้ายวัง แขวง พระบรมมหาราชวัง เขต พระนคร กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสน.พระราชวัง ได้ออกใบสั่งให้กับนายบรรพตข้อหาปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน ก่อนตรวจสอบพบว่าลักษณะคล้ายกับผู้ต้องสงสัยก่อเหตุลักทรัพย์ ชุดสืบสวนสน.พระราชวัง จึงได้เข้าควบคุมตัวนายบรรพต สอบสวนกรณีดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ชาวต่างชาติจริงระหว่างที่ได้ขับรถจักรยานยนต์อยู่บริเวณท่าเตียนได้มีผู้โดยสารชาวต่างชาติได้เรียกใช้แอพลิเคชั่นโบลท์ ที่ตนใช้เป็นคนขับแต่ใช้บัญชีชื่อผู้รับงานของรุ่นน้องที่รู้จักกัน ชื่อสุรัตน์ เมื่อผู้โดยสารชาวต่างชาติที่เรียกใช้ ได้จอดรถบริเวณปากซอยท่าเตียน และได้นำหน้ากากอนามัยมาปิดที่ป้ายทะเบียนรถที่ได้ขับขี่ จากนั้นจึงขับรถวนไปรับผู้โดยสารชาวต่างชาติคนดังกล่าว เมื่อไปถึงชาวต่างชาติได้เปิดกระเป๋าเพื่อที่จะชำระค่าโดยสาร แต่ข้าฯเห็นว่าเงินในกระเป๋ามีเงินสดเป็นจำนวนมาก จึงได้บอกให้นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวเอากระเป๋ามาไว้หน้ารถของข้า และผู้โดยสารจึงนั่งซ้อนท้าย ต่อมาระหว่างที่ได้ขับรถจักรยานยนต์อยู่นั้น ข้าได้เอามือซ้ายของข้าล้วงเข้าไปในกระเป๋าของผู้โดยสารชาวต่างชาติที่ข้าได้ห้อยไว้อยู่ที่หน้ารถจักรยานยนต์และหยิบเงินจำนวน 14,000 บาท ใส่ในกระเป๋าเสื้อที่สวมใส่ไป หลังจากนั้นข้าจึงได้บอกกับผู้โดยสารชาวต่างชาติว่า ผู้โดยสารเรียกใช้บริการผิดคัน จึงได้พาผู้โดยสารชาวต่างชาติมาส่งบริเวณท่าเตียน จุดที่ผู้โดยสารชาวต่างชาติได้เรียกใช้ ก่อนขับหนีไป
ก่อนขับรถไปหาเจ้าของรถคันที่ตนเองขับอยู่ ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ภายในซอยสโมสรทหารบก ถนน อู่ทองนอก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และได้เปลี่ยนรถจักรยานยนต์โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ลีด 125 สีดำ 7ขน3414 กรุงเทพมหานคร โดยได้ใช้ตุ๊กตาปิดแผ่นป้ายทะเบียน เพื่อไม่ให้วินมอเตอไซค์รับจ้างเห็นป้ายทะเบียน และได้ไปเล่นสนุ๊กเกอร์ภายในซอยสวนอ้อย แขวงดุสิต เขตดุสิตกรุงเทพมหานคร และได้เสียเงินเดิมพันเป็นจำนวนประมาณ 14,000 บาทไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาลักทรัพย์ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสน.พระราชวัง ดำเนินคดีตามกฎหมาย