วันที่ 16 ธ.ค.67 ที่อาคาร ประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผยว่า วันนี้ ทนายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความของเจ๊อ้อย พาพี่น้อง เลขาฯ และบุตรชายเจ๊อ้อย มาให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีทนายตั้ม อีกเล็กน้อย โดยในส่วนของบุตรชายเจ๊อ้อยในฐานะมีชื่อเป็นเจ้าของที่ดิน ที่จะสร้างโรงแรม
ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า 10 โมงและช่วงบ่าย ทนายสมชาติได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารออยู่ว่าแค่มาเซ็นเอกสารเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้สำนักงาน ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ได้แจกเอกสารข่าวว่า
สำนักงาน ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรภรรมครั้งที่ 15/2567 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ซึ่งได้ดำเนินการกับทรัพย์สินกว่า 821 รายการ 27 รายคดีมูลค่าทรัพย์สินกว่า 4,551 ล้านบาทและมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ดรวจสอบทรัพย์สิน 66 รายคดี
วันที่ 16 ธันวาคม 2567 นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. และนายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย โฆษกประจำจำล้ำสำสำนักงาน ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมครั้งที่ 15/2567 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 คณะกรรมการธุรกรรมได้พิจารณาเห็นชอบให้ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด
สรุปผลการดำเนินการที่น่ารที่น่าสนใจดังนี้
- ยึดและอายัดทรัพย์สินจำนวน 12 รายคดี ทรัพย์สินกว่า 234 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 836 ล้านบาท โดยเป็นทรัพย์สินในคดีสำคัญเกี่ยวกับความผิดมูลฐาน เกี่ยวกับยาเสพติด การฉ้อโกงประชาชนหรือการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีข้อมูลรายคดีสำคัญ ดังนี้
- รายคดี นายษิทราฯ กับพวก ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉัอโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดฐานฟอกเงิน โตยมีเหตุที่อันควรเชื่อได้ว่ามีการโอน ยักย้าย ปกปิด
หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สิน
ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 3 รายการ เป็นที่ตินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร
รวมมูลค่าประมาณ 71 ล้านบาท
ต่อมาในเวลา 20.50 น. นายสมชาติ ได้เปิดเผยว่า วันนี้ที่ทางลูกชายของเจ๊อ้อยและเลขาคนสนิทได้มาเซ็นเอกสารการให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางลูกชายได้เซ็นเพียงไม่กี่แผ่นแต่ส่วนของเลขาคนสนิทนั้นเซ็นชื่อไปกว่า 10 แฟ้ม ซึ่งการเซ็นครั้งนี้ต้องเซ็นชื่อและนามสกุลทุกใบ จึงทำให้ใช้เวลานาน และทางตำรวจได้มีการสอบปากคำ ในประเด็นเงิน 71 ล้านบาทกับเลขาคนสนิทอีกด้วย ซึ่งเป็นการเก็บรายละเอียดเล็กน้อย ส่วนลูกชายของเจ๊อ้อยสอบปากคำในประเด็น ที่ดินที่ใช้ สำหรับสร้างโรงแรมมูลค่า 9 ล้านบาท
ในส่วนกรณีทีี่ทาง ปปง. ได้ มีการยึดทรัพย์ทนายตั้ม มูลค่า 71 ล้านบาท ส่วนตัวยังไม่ได้รับทราบข้อมูล
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางเจ๊อ้อยหรือไม่ว่าหลังจากนี้จะดำเนินการทางคดีอย่างไรต่อ นายสมชาติ กล่าวว่า ตนได้มีการพูดคุยกับทางเจ๊อ้อยที่อยู่ฝรั่งเศสซึ่งยืนยันว่าจะดำเนินคดีทนายตั้มให้ถึงที่สุดไม่มีการยอมความ และหลังจากนี้จะผิดกับใครเพิ่มเติมหรือไม่นั้นตนยังไม่ทราบเป็นดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน
