17 ธ.ค.67 ที่ ชั้น 6 อาคารพิทักษ์สันติ กองทัพการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม.
พ.ต.ท.ทศพร กก.1 บก.ปอท.เรียกนางปิ่น สมแสง อายุ 92 ปี ซึ่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางได้มีคำสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ โดยมีนางบุญยืน ลูกสาวคนเล็กพามา ตามที่พนักงานอัยการอาญาธนบุรี สั่งให้สอบเพิ่มเติมในคดีที่ นางปรีญา คำฝึกฝน ลูกสาวคนโต แจ้งความ บก.ปอท.ไว้เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2566 หลังพบว่ามีเงินรายได้ของนางปิ่น จากธนาคารยูโอบี จำกัด บัญชีชื่อนางปิ่น สมแสง ถูกถอนผ่านทางอิเล็คโทรนิค ระหว่าง ปี พ.ศ.2559 ถึง 2566 จำนวน 311 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 98 ล้านบาท
พงส.บก.ปอท.สืบสวนสอบสวนตรวจสอบแล้วพบว่านางบุญยืนร่วมกับสามี เป็นผู้เบิกถอนเงินดังกล่าว บก.ปอท.จึงดำเนินคดีบุคคลทั้งสอง ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน , ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบฯ และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องสำนักงานคดีอาญาธนบุรี เมื่อ 5 ก.ย.2567
ทั้งนี้ นางปรีญาและนางลัดดา ลูกสาวคนโตและหลานสาวนางปิ่นเจ้าของทรัพย์ มีประเด็นข้อสงสัยถึงการที่ทนายฝ่ายผู้ต้องหา นำสิ่งของเป็นถุงกระดาษสีแดงไปให้คนในสำนักงานอัยการเมื่อวันที่ 17 และ 18 ก.ย.67 โดยมีหลักฐานเป็นภาพวงจรปิดของสำนักงานคดีอาญาธนบุรีได้นำไปร้องขออัยการสูงสุดเปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบในคดีลักทรัพย์ ตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมาร่วม 3 เดือนแล้วยังไม่มีผลแต่อย่างใด
นอกจากนี้ทนายวิเชียร กล่าวเพิ่มเติม นางปรีญายังได้ไปยื่นร้อง ป.ป.ง.ด้วยอีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นการลักทรัพย์ตามปกติวิสัย เมื่อ มิ.ย.67 เป็นมูลฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน แต่จนถึงบัดนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้าแต่อย่างใดเช่นกัน
