จากกรณีเกิดเหตุกลุ่มมือปืนบุกยิงถล่มศูนย์จำหน่าย ฮาร์เลย์ เดวิดสัน AAS Harley-Davidson ริมถนนสุขุมวิท พื้นที่สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี ทำให้กระจกด้านหน้าถูกคมกระสุนทะลุถึง 11 รู ได้รับความเสียหายแตกเป็นเสี่ยงๆ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบยังพบ ปลอกกระสุน 11 ปลอกตกเกลื่อนลานจอดรถ โดยมีรปภ.ผู้เห็นเหตุการณ์เล่านาทีระทึก คนร้ายถือมือปืนสั่งให้หมอบ ยึดมือถือ เชื่อเป็นการยื้อเวลาในการหลบหนีไป ในเวลาเดียวกันยังเกิดเหตุ คนร้ายบุกยิงถล่มบ้านนายทักษิณ มณฑลทักษิณ อายุ 44 ปี ที่ปรึกษากลุ่ม HOG AAS of Pattaya ซึ่ง เชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกัน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 25 เมษายน 2565 พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สภ.หนองปรือ พ.ต.ท.กฤษณ์ มาสุข รอง ผกก.ป.สภ.หนองปรือ พ.ต.ท.พิชญะ เขียวเปลื้อง สารวัตรท่องเที่ยงเมืองพัทยา พ.ต.ต.ปริญ ศรีภัทรกุลชัย สว.สส.กก.2 พร้อมด้วยทีมสืบสวน ตำรวจหนองปรือ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตรวจพิสูจน์หลักฐาน ประชุมเร่งรัดติดตามจับกุมกลุ่มคนร้าย ทั้ง 4 คน ที่ก่อเหตุถล่มยิงศูนย์จำหน่ายรถฮาร์เลย์ เดวิดสัน และบ้านของนายทักษิณ มณฑลทักษิณ ซึ่งเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกันในความขัดแย้ง ที่ห้องประชุม ศปก.สภ.หนองปรือ โดยไม่ได้ให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ในการประชุม พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ทีมชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาข่าวเพิ่มเติม โดยให้แบ่งหน้าที่กันสืบสวนหาเบาะแส ทั้งที่บ้านของนายทักษิณ และศูนย์จำหน่ายรถฮาร์เลย์ เดวิดสัน เพื่อหาปมเหตุความขัดแย้งที่นำไปสู่การก่อเหตุกระหน่ำยิงอย่างอุกอาจในครั้งนี้ โดยยังสั่งการให้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอีกครั้ง ทั้งในช่วงที่เกิดเหตุหลบหนีและก่อนการก่อเหตุ เพราะเชื่อว่าคนร้ายจะต้องมาดูราดราวก่อนวันก่อเหตุ พร้อมสั่งพิสูจน์หลักฐานจากเครื่องกระสุนและปลอกกระสุนทั้งหมดกว่า 30 ปลอกจากที่เกิดทั้ง 2 จุด ซึ่งพบว่ามีความเชื่อมโยงกัน ส่วนเครื่องกระสุนที่เข้าตรวจค้นจากบ้านผู้ต้องสงสัยก่อนหน้านี้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เนื่องจากมีความเหมือนความคล้ายไม่ได้ทั้งหมด แต่อาวุธปืนนั้นที่ตรวจยึดได้ กับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นยังไม่ตรงกัน ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้นพอจะรู้ตัวผู้ต้องสงสัยบ้างแล้ว แต่ยังไม่สามรถระบุชื่อได้ แต่เชื่อว่าน่าจะมีคนไทยและชาวต่างชาติเป็นผู้ร่วมกันก่อเหตุ โดยตั้งประเด็นการขัดแย้งเรื่องธุรกิจ การเงิน ปัญหาส่วนตัว รวมถึงเรื่องระหว่างแก๊ง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยกับสื่อมวลชนได้ทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าการเกิดเหตุทั้งสองจุดนั้นมีแนวโน้มที่จะเกี่ยวข้องกัน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับแก๊งมาเฟียข้ามชาติหรือไม่นั้นยังไม่ขอระบุ แต่อยู่ในประเด็นแนวทางของทีมสืบสวน ซึ่งก็ได้ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพร้อมประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสากลในการสืบสวนครั้งนี้ด้วย เบื้องต้นจากผลการพิสูจน์หลักฐานจากปลอกกระสุนปืนที่ตกในที่เกิดเหตุ สามารถระบุได้ว่าเป็นกระสุนขนาด 9 มม. ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ยิงนั้นเป็น ปืน ยี่ห้อ กล็อก 19 และ กล็อก 26 อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ยังคง เร่งหาเบาะแสของกลุ่มคนร้าย ซึ่งหากเกี่ยวข้องกับกลุ่มแก๊งมาเฟียข้ามชาติ ก็จะมีมาตรการขุดรากถอนโคนต่อไปอย่างแน่นอน