วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น. นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน/อุบัติภัยทางน้ำ ปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมดูแลรักษาความปลอดภัย “ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568” และวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติจังหวัดชลบุรี ประจำปี 2567 ณ บริเวณลานกิจกรรมพัทยากลาง ถนนเลียบชายหาดพัทยา (แยกนิภาลอดจ์) ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนได้กำหนดให้ทุกจังหวัดดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568 โดยให้ดำเนินการช่วงควบคุมเข้มข้นระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ถึง 5 ม.ค. 2568 (จำนวน 10 วัน) เพื่อความปลอดภัยแก่ชีวิตทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยว ที่เดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนา และมาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ประกอบกับคณะรัฐมนตรี ได้มีมติกำหนดให้วันที่ 26 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ จังหวัดชลบุรี จึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน จัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน/อุบัติภัยทางน้ำ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ แสดงถึงความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน อาสาสมัคร มูลนิธิ ในการส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดชลบุรี
นอกจากนี้ ยังมีอีกกิจกรรม คือการปล่อยขบวนรณรงค์ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน/อุบัติภัยทางน้ำ การกวาดล้างอาชญากรรม และดูแลรักษาความปลอดภัย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568 เนื่องจากจังหวัดชลบุรี เป็นเมืองท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมืองพัทยา ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก และอาจมีมิจฉาชีพแฝงเข้ามาก่ออาชญากรรมจำนวนมาก ทั้งยาเสพติด อบายมุข และการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ จึงต้องบูรณาการความร่วมมือในการป้องกัน ปราบปรามอาชญากรรม และการรักษาความสงบในพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุร้าย อันตรายต่างๆ และรักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่พี่น้องประชาชน ภายในงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้อ่านสารนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ประจำปี 2567 การมอบนโยบาย การปล่อยขบวนรณรงค์ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน/อุบัติภัยทางน้ำ และการกวาดล้างอาชญากรรม ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568 โดยได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนทั้ง พลเรือน ทหาร ตำรวจ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ องค์การสาธารณกุศล จิตอาสาพระราชทาน และภาคประชาชน ร่วมกิจกรรม กว่า 400 คน