วันพุธ, มกราคม 15, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบฝรั่งแสบปลอมเอกสารบริษัทขายบริษัทและหุ้นของภรรยาไทยกว่า 20 ล้านบาท

Related Posts

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบฝรั่งแสบปลอมเอกสารบริษัทขายบริษัทและหุ้นของภรรยาไทยกว่า 20 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์, พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ., ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ., พ.ต.ท.นนทพัทธ์ ยอดแก้ว, พ.ต.ท.ภาสกร นภาโชติ, พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ และ พ.ต.ท.ชวลิต น้ำใจสัตย์ รอง ผกก.3 บก.ปอศ.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล สว. กก.3 บก.ปอศ., ร.ต.อ.ศิการ ไม้คู่รอง สว.(ป.) กก.3 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายเคว็นเท็นฯ หรือ Mr.Quentin อายุ 57 ปี สัญชาติ บริติช ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทยา ที่ 737/2567 ลงวันที่ 24 ธ.ค.2567 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “แจ้งความเท็จ, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น,ใช้หรืออ้างเอกสารอันเป็นเท็จ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัท กระทำหรือยินยอมให้กระทำด้วยการเปลี่ยนแปลง ปลอมหรือลงข้อความเท็จในเอกสารของบริษัท กระทำหรือยืนยอมให้กระทำด้วยการเปลี่ยนแปลง ปลอมหรือลงข้อความเท็จในเอกสารของบริษัท หรือที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เพื่อลวงให้ผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้”


​สถานที่จับกุม บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก นายเคว็นเท็นฯ หรือ Mr.Quentin ผู้ต้องหาเป็นกรรมการบริษัทแห่งหนึ่งในพัทยา และมีหุ้นส่วนคือภรรยาชาวไทย โดยบริษัทมีการซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นที่ตั้งของบริษัท ซึ่งต่อมาพบว่าผู้ต้องหาได้ทำการไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ว่าโฉนดที่ดินของบริษัทหายไป เพราะต้องการนำเอกสารแจ้งความเรื่องโฉนดที่ดินของบริษัทที่หายไปก็เพราะมีวัตถุประสงค์เพื่อไปดำเนินการใช้ในการออกโฉนดที่ดินของบริษัทใหม่กับเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ซึ่งโฉนดที่ดินของบริษัทตัวจริงนั้น ไม่ได้หายแต่อย่างใด โดยอยู่กับหุ้นส่วนของบริษัทหรือภรรยาชาวไทยของผู้ต้องหา ต่อมาเมื่อได้โฉนดที่ดินของบริษัทฉบับใหม่มาแล้ว ผู้ต้องหาได้นำโฉนดที่ดินไปหลอกขายให้กับบุคคลอื่น โดยมีการปลอมแปลงเอกสารการประชุมของบริษัท ขายหุ้นของบริษัททั้งหมดพร้อมที่ดินให้กับผู้ซื้อรวมมูลค่าเกือบ 20 ล้านบาท ซึ่งผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทไม่ได้รับรู้แต่อย่างใด เมื่อผู้ถือหุ้นเดิมพบว่าตนเองไปที่บริษัทแล้วมีผู้อื่นเข้ามาดำเนินกิจการแทน และได้ไปตรวจสอบกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่าตนเองนั้นไม่มีชื่อเป็นหุ้นส่วนอยู่ในแบบจดทะเบียนบริษัทที่ 5 (บอจ.5) พร้อมทั้งมีผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่มาแทนชื่อตนเอง และผู้เสียหายได้ไปตรวจสอบที่กรมที่ดินพบว่าโฉนดที่ดินของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ จึงได้มาแจ้งความดำเนินการร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ.


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้รับแจ้งว่า นายเคว็นเท็นฯ หรือ Mr.Quentin ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 737/2567 ลงวันที่ 24 ธ.ค.2567 ในฐานความผิด “แจ้งความเท็จ, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานฯ” กำลังจะเดินทางเข้ามาในประเทศทาง ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมฯ จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ พบบุคคลต้องสงสัยมีลักษณะและตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลตามหมายจับฯ มาแสดงตน ที่ฝ่าย ตม. ขาเข้า ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้ตรวจอนุญาตเดินทางเข้าราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมฯ ได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางและเอกสารประจำตัวประชาชน และได้ตรวจพบว่าผู้ถูกจับมีชื่อ-สกุล เพศ อายุ สัญชาติ เลขหนังสือเดินทางและเอกสารหนังสือเดินทาง และมีตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลตามหมายจับข้างต้น จึงได้แสดงหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 737/2567 ลงวันที่ 24 ธ.ค.2567 ให้ผู้ต้องหาดูและสอบถามแล้วรับว่าตนชื่อนายเคว็นเท็นฯ หรือ Mr.Quentin เป็นบุคคลตามหมายจับจริง

​สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบี้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตามข้อกล่าวหา เตือนภัย กก.3 บก.ปอศ.ขอแจ้งเตือนกรรมการ ผู้ถือหุ้น และพนักงานที่มีตำแหน่งเฉพาะในการบริหารงานธุรกิจในรูปแบบของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน ที่ต้องดำเนินการในธุรกิจให้สุจริตและถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ควรดำเนินการปลอมแปลงเอกสารต่างๆ เช่น รายงานการประชุม ,การตกแต่งบัญชี เป็นต้น ซึ่งอาจทำให้มีความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.กำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิพ.ศ. ๒๔๙๙ , พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 และประมวลกฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องระวางโทษทั้งจำคุกและปรับ ตามจำนวนกรรมที่กระทำผิด และกรณีการแจ้งความเท็จมีโทษทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 แจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นเสียหาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ตั้งแต่การก่อตั้งนิติบุคคลเสร็จจะต้องมีใบหุ้น โดยระบุหมายเลขหุ้นกับชื่อผู้เป็นหุ้นส่วนด้วย ซึ่งหากไม่มีใบหุ้นผู้ถือหุ้นสามารถขอจากกรรมการได้ และ ผู้ถือหุ้นสามารถไปตรวจสอบว่าตนเองยังมีหุ้นอยู่ในบริษัทที่เราลงทุน ณ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ใกล้เคียง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts