วันศุกร์, มกราคม 24, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ทลายบริษัทเอเจนซี่หลอกระดมทุนอ้างร่วมธุรกิจ แบรนด์สินค้าชั้นนำเสียหายกว่า 200 ล้านบาท

Related Posts

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ทลายบริษัทเอเจนซี่หลอกระดมทุนอ้างร่วมธุรกิจ แบรนด์สินค้าชั้นนำเสียหายกว่า 200 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก.,พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รอง ผบก.ปอศ.รรท.ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ นำโดย พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.จำนาญ จันทร์เทศ รอง ผกก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.เชาวน์วุฒิ เลียบมา สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.สาธิต หาวงษ์ชัย สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ท.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.4 บก.ปอศ.
ร่วมกันจับกุม
1.นางสาวดวงกมลฯ อายุ 41 ปี
2.นายภิญโญฯ อายุ 40 ปี
3.นางสาวขวัญสุดาฯ อายุ 42 ปี
4.นายนิธานฯ อายุ 41 ปี

พร้อมด้วยของกลาง
1.รถยนต์ยี่ห้อBYD จำนวน 1 คัน
2.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง
4.คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 4 เครื่อง
5.คอมพิวเตอร์ออลอินวัน จำนวน 1 เครื่อง
6.อุปกรณ์สำรองข้อมูลแบบพกพา จำนวน 2 อัน
7.สมุดบัญชีธนาคารและบัญชีธนาคารที่อายัด จำนวน 32 บัญชี
8.สมุดเช็คธนาคาร จำนวน 8 เล่ม
ในฐานความผิด ร่วมกันฉ้อโกง,ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้เสียหายจำนวน 13 ราย ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ให้ดำเนินคดีกับบริษัทแห่งหนึ่ง พร้อมบุคคลที่เกี่ยวข้องจากการที่ นางสาวดวงกมลฯ ซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทดังกล่าว ได้ระดมทุนจากกลุ่มผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักธุรกิจที่รู้จักกันผ่านการอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง โดยอ้างว่าบริษัทประกอบธุรกิจเอเจนซี่มีคู่ค้าเป็นบริษัทผลิตสินค้าแบรนด์ดัง ทำให้บริษัทมีผลกำไรสูง จึงต้องการระดมทุนจำนวนมาก จากนั้นกลุ่มนักธุรกิจซึ่งเป็นผู้เสียหายได้ลงทุนตั้งแต่ห้วงปี 2556 เป็นต้นมา โดยกลุ่มผู้ต้องหา ได้กลอุบายทำสัญญากู้ยืมเงินจ่ายผลตอบแทนถึงร้อยละ 5-10 ต่อเดือนหรือร้อยละ 60-120 ต่อปี เพื่อจูงใจให้นักธุรกิจหลงเชื่อมาร่วมลงทุน ซึ่งในช่วงแรกบริษัทมีการจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่สูงจากการลงทุนตามที่กล่าวอ้างทำให้กลุ่มผู้เสียหายมีความมั่นใจและลงทุนต่อเนื่อง แต่เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ผู้ต้องหาเสนอจ่ายนั้นมีอัตราสูงเกินกว่าที่ธุรกิจโดยทั่วไปจะสามารถจ่ายได้ ทำให้กลุ่มผู้ต้องหามีการระดมทุนเพิ่มเพื่อนำเงินมาหมุนเวียนจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กับนักลงทุน จนต่อมาบริษัทไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้ทำให้เกิดความเสียหายเกือบ 200 ล้านบาท

จากการสืบสวนเส้นทางการเงินของบริษัทดังกล่าว กับกลุ่มผู้เกี่ยวข้องพบมีการใช้บัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดครั้งนี้จำนวนกว่า 32 บัญชี โดยภายในระยะเวลา 10 ปี มีเงินหมุนเวียน กว่า 1,100 ล้านบาท

ซึ่งบางส่วนนำไปจ่ายเป็นผลตอบแทนให้กลุ่มผู้เสียหายเพื่อให้หลงเชื่อว่าทำธุรกิจและได้รับผลตอบแทนจริง และบางส่วนเป็นการแบ่งผลประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้ร่วมกระทำความผิด โดยเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินของผู้เสียหาย ต่อมาพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย โดย กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้นจำนวน 4 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดนนทบุรี นำไปสู่การตรวจยึดบัญชีธนาคารพร้อมพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน จากการตรวจค้นบริษัทดังกล่าว ตั้งอยู่ในเขตวังทองหลาง กรุงเทพ

ผลการตรวจค้น พบ น.ส.เอ นามสมมุติ ซึ่งเป็นพนักงานบริษัทเพียง 1 ราย รับว่าปัจจุบันทางบริษัทไม่ได้มีการประกอบกิจการใด โดยพนักงานรายอื่นได้ทยอยลาออกไปหมดแล้วเหลือเพียงตนเองที่มีหน้าที่คอยเฝ้าดูแลสถานที่

ต่อมาสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 4 ราย โดยจับกุมนางสาวขวัญสุดาฯ ได้ที่บ้านพักย่านบางกะปิ กรุงเทพฯ และจับกุมนายนิธานฯ ได้ที่บ้านพักย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี ในส่วนของนางสาวดวงกมลฯ และนายภิญโญฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวได้บริเวณถนนมิตรภาพ กม.24 อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ขณะกำลังเดินทางไปจังหวัดนครราชสีมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่รับว่าได้ชักชวนผู้เสียหายลงทุนจริง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 บก.ปอศ. เบอร์ติดต่อ 0824516966

ตำรวจสอบสวนกลางขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน ควรใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจร่วมลงทุน โดยเฉพาะลงทุนที่มีการเสนอผลตอบแทนสูงเกินความเป็นจริง มีการการันตีผลตอบแทนที่แน่นอน เร่งรัดให้ตัดสินใจลงทุน ดึงดูดใจด้วยสินทรัพย์ใหม่ ๆ หรือมีรูปแบบธุรกิจไม่ชัดเจน ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสียหายจากการลงทุน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts