วันพฤหัสบดี, มกราคม 30, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) รวบ 12 เภสัชเถื่อน ลุยจัดระเบียบร้านขายยาทั่วกรุงฯ

Related Posts

ตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) รวบ 12 เภสัชเถื่อน ลุยจัดระเบียบร้านขายยาทั่วกรุงฯ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. โดยการสั่งการของ พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รรท.ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. กรณีระดมตรวจค้นร้านขายยาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จับกุมผู้ต้องหาที่ไม่ใช่เภสัชกร 12 ราย พร้อมยึดของกลางที่เกี่ยวข้อง จำนวน 26 รายการพฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ให้ตรวจสอบร้านขายยากลุ่มเสี่ยงที่มีพฤติการณ์ใช้พนักงานขายยาที่ไม่ใช่เภสัชกร จำหน่ายยาให้ประชาชนทั่วไป ซึ่งร้านขายยานั้น จะต้องมีเภสัชกรประจำเพื่อแนะนำข้อมูล สรรพคุณ ปริมาณ และวิธีการใช้ยาแก่ประชาชนก่อนตัดสินใจเลือกซื้อยาไปรับประทานเพื่อรักษาโรค ซึ่งหากบริโภคผิดวิธี หรือในกรณีผู้ที่แพ้ยาบางประเภท อาจไม่ได้ผลการรักษาตามที่คาดหวัง หรือก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ จึงเป็นที่มาในการจัดระเบียบร้านขายยาในครั้งนี้


โดยในห้วงวันที่ 1 มกราคม 2568 – 24 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้เข้าตรวจสอบร้านขายยา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

จำนวน 12 จุด ได้แก่
1.ร้านยาแอลเอฟาร์มาซี,
2.ร้านยายิ่งเจริญฟาร์มาซี,
3.ร้านขายยา P Drug Store,
4.ร้านขายยารุ่งโรจน์ฟาร์มาซี,
5.ร้านยาฟาร์มาเพลซ,
6.ร้านยาร้อยแปดพันเก้า,
7.ร้านขายยารุ่งเรืองโอสถ,
8.ร้านขายยาพีเมดพลัส,
9.ร้านยาโกสุมรวมใจ,
10.ร้านพลรักษ์ฟาร์มาซี,
11.ร้านขายยา ปภาวรินทร์,
12.ร้านขายยาทิวาภรณ์

ตรวจยึดยาอันตราย ยาขึ้นทะเบียนตำรับยา และพยานหลักฐานอื่นๆ จำนวน 26 รายการ โดยร้านขายยาทั้งหมดได้รับอนุญาตถูกต้อง แต่ไม่มีเภสัชกรประจำอยู่ โดยผู้ที่ขายยาไม่ใช่เภสัชกรพร้อมจับกุมผู้ต้องหาซึ่งไม่ใช่เภสัชกรและไม่มีความรู้ด้านเภสัชกรรม จำนวน 12 ราย โดยผู้ต้องหาจบการศึกษาระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 5 ราย ประกาศนีบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) จำนวน 2 ราย และปริญญาตรี จำนวน 5 ราย ดำเนินคดีข้อหา “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมฯ โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต และในกรณีบางรายที่จำหน่ายยาอันตรายจะมีความผิดเพิ่มเติม ฐาน “ขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่” โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับว่า รับจ้างเป็นพนักงานขายยาภายในร้านขายยาซึ่งอยู่ประจำร้านทุกวัน และจะมีเภสัชกรเข้ามาดูแลร้านเพียงเดือนละ 1-4 ครั้ง โดยได้รับค่าจ้างเดือนละ 12,000 – 30,000 บาท

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม

  1. พระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ.2537 มาตรา 28 ฐาน “เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมทำการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  2. ความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ฐาน “ขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่” ระวางโทษปรับ 1,000-5,000 บาท
  3. สำหรับผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ(เภสัชกร) มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ฐาน “ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาทำการ รวมถึงไม่ควบคุมการขายยา ควบคุมการส่งมอบยา อันตราย และควบคุมการทำบัญชีซื้อและขายยาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง” ระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท

พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รรท.ผบก.ปคบ. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้มีมาตรการเฝ้าระวัง ตรวจสอบร้านขายยากลุ่มเสี่ยง ที่มีการจำหน่ายยาให้ลูกค้าโดยไม่มีเภสัชกรประจำอยู่ ซึ่งยานั้นเป็นสิ่งที่ใช้รักษาโรค หรือบรรเทาอาการเจ็บป่วย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้อย่างถูกวิธีและได้รับคำแนะนำในการใช้อย่างละเอียด จากผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม โดยเฉพาะยาอันตรายและยาควบคุมพิเศษซึ่งจะต้องใช้อย่างระมัดระวังตามใบสั่งของแพทย์ เท่านั้น หากพี่น้องประชาชนพบเห็นร้านขายยาใดมีพฤติกรรมในการใช้พนักงานขายยาที่ไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมหรือการกระทำความผิดกฎหมายในลักษณะอื่นใดสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปคบ.1135 หรือ เพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภคได้ตลอดเวลา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts