เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2568 พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจ ผกก.สืบสวน บช.ทท. สั่งการให้ พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ รักษา รอง ผกก.สืบสวน บช.ทท. พร้อมชุดปฏิบัติการภาค 2 กก.สืบสวน.บช.ทท. ประกอบด้วย จ.ส.ต.อนุพงศ์ อมรพิพัฒนานนท์ ,จ.ส.ต.พิศุทธิ์ สุดสน ,จ.ส.ต.สมพล แท่นเผือก และ ส.ต.อ.ปัณณทัต ปั้นเกตุ ผบ.หมู่ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณลานจอดรถพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ จังหวัดชลบุรี ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ พบหญิงชาวรัสเซียลงจากรถตู้โดยสารสาธารณะสีขาว พร้อมพากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินขึ้นไปชมพระพุทธรูปบนเขาชีจรรย์
ขณะนั้น เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นหญิงรายนี้พูดแนะนำสถานที่เป็นภาษาต่างชาติให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยว แต่กลับไม่พบมัคคุเทศก์ที่ได้รับอนุญาตร่วมอยู่ในกลุ่มแต่อย่างใด จึงเฝ้าติดตามพฤติการณ์อย่างใกล้ชิดหญิงชาวรัสเซียรายดังกล่าวยังคงนำกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางต่อไปยังวัดหนองใหญ่ ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง และทำหน้าที่ดูแลและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เมื่อหญิงรายนี้พานักท่องเที่ยวกลับมาขึ้นรถตู้ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมบัตรประจำตัวข้าราชการ และตรวจสอบเอกสารสำคัญของหญิงชาวรัสเซีย และไม่มีไกด์คนไทยร่วมในกลุ่มแต่อย่างใด จากการสอบถามคนขับรถตู้ยืนยันว่า หญิงชาวรัสเซียคนนี้เป็นผู้ดูแลนักท่องเที่ยวเพียงลำพัง
แจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และ “ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่รับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์จากนายทะเบียนฯ “ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวฯ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ประชาสัมพันธ์เตือนภัยนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับความผิดของการลักลอบทำหน้าที่มัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถือเป็นอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าวตามกฎหมายไทย การกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและสร้างความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวตำรวจท่องเที่ยวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการใช้มัคคุเทศก์ที่มีใบอนุญาต และขอให้ประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแสการลักลอบทำงานที่ผิดกฎหมาย เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155.
อติชาตสุขยืนรายงาน
