“..หนังสือร้องเรียน วัชระ พ่นพิษ “จันทร์เพ็ญ” ไขก๊อกพ้นประธานจริยธรรมข้าราชการรัฐสภา หนีเผือกร้อนสอบ “พรพิศ” แถลงข่าวเท็จกรณีไม้ปูพื้นการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ไม่ตรงกับข้อกำหนดตามสัญญา..”
จากกรณีเมื่อวันที่ 11ม.ย.65 นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ นางจันทร์เพ็ญ อานามวัฒน์ ประธานกรรมการจริยธรรมข้าราชการรัฐสภา ให้สอบสวน นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ นายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและประธานคณะกรรมการตรวจการจ้าง โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งได้กระทำความผิดประมวลจริยธรรมข้าราชการรัฐสภา
จากกรณีเมื่อวันที่ 8 เม.ย.65 นางพรพิศและนายสาธิตได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับประเด็นไม้ปูพื้นการก่อสร้างอาคาร รัฐสภาแห่งใหม่ฯ ซึ่งไม่ตรงกับข้อกำหนดตามสัญญาว่า “การตรวจรับไม่แล้วเสร็จ” อันมีความหมายว่า ยังไม่มีการจ่ายค่าจ้างในงวดงานดังกล่าวให้กับผู้รับจ้างนั้น
ทั้งที่ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้กรรมการตรวจการจ้างจำนวนหนึ่ง ประกอบด้วย นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่าที่เรือตรียุทธนา สำเภาเงิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และโฆษกสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ นายณัฐสิทธิ์ เวียงทอง ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานติดตามและประเมินผล สำนักนโยบายและแผน
ได้ร่วมกันทำหนังสือราชการและร่วมกันลงลายมือชื่อเป็นหลักฐานยืนยันข้อเท็จจริงว่า คณะกรรมการตรวจการจ้างได้ตรวจรับงานไม้ปูพื้นอาคารรัฐสภาที่มีชนิดของไม้ไม่ตรงตามข้อกำหนดในสัญญา และได้จ่ายเงินให้กับผู้รับจ้างในงวดงานดังกล่าวไปแล้ว
ดังนั้น การแถลงข่าวของ นางพรพิศและ นายสาธิต จึงเป็นการกล่าวความเท็จต่อสาธารณชน และต้องการปกปิดความผิดของตน ซึ่งได้ตรวจรับและอนุมัติการจ่ายเงินงวดงานไม้ปูพื้นอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ฯ ที่ไม่ตรงตามข้อกำหนดในสัญญาไปแล้ว
ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 เม.ย.65 นายวัชระ เปิดเผยว่า หลังจากที่ นางจันทร์เพ็ญ อานามวัฒน์ ประธานกรรมการจริยธรรมข้าราชการรัฐสภา ได้รับหนังสือร้องเรียนของตนแล้ว ก็ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานมีผลตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.65 ทั้งที่เพิ่งจะได้รับการแต่งเมื่อวันที่ 5 เม.ย.65 ที่ผ่านมา คาดว่าเพื่อจะไม่ต้องสอบ นางพรพิศ เพราะมีความสนิทสนมกัน และเรื่องที่เกิดขึ้น นางพรพิศ ก็ส่อว่าผิดจริยธรรมอย่างแน่นอน ต่อจากนี้ก็จะต้องแต่งตั้งประธานกรรมการจริยธรรมข้าราชการรัฐสภาขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นอำนาจของ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา