จากกรณี “เดลิเมล์” สื่อของประเทศอังกฤษ รายงานข่าวอ้างเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ชื่อนายแอนดรูว์ วัย 55 ปี ถูกตำรวจพัทยาจับกุม ทำร้าย คุมขัง และบังคับจ่ายเงิน 15,000 บาท เพียงเพราะเดินชนป้ายบอกทาง
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 สั่งการ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ทำหนังสือไปยังสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยและสื่อดังกล่าว ชี้แจงข้อเท็จจริง และให้พิจารณาแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการนำเสนอข่าวสารที่คลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง สร้างความเสียหายต่อเมืองพัทยา ตำรวจพัทยา และตำรวจไทย
ขณะที่ พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงอย่างมาก ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ไม่ได้กระทำกับชายชาวอังกฤษรายนี้ ตามที่ กล่าวอ้างแต่อย่างใด การเสนอข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหาย ความเข้าใจผิด โดยอาจยังไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน
โฆษก ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 นายแอนดรูว์ อยู่ในอาการมึนเมา ส่งเสียงดังโวยวาย ก่อความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น และทำลายทรัพย์สินที่กั้นรถทางเข้า – ออก อัตโนมัติของที่พัก ไฮปาร์คเรสซิเด้นซ์ เจ้าของจึงได้แจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเจรจาให้นายแอนดรูว์สงบสติอารมณ์ในที่เกิดเหตุ แต่ไม่สำเร็จ จึงคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายที่ สภ.เมืองพัทยา โดยเจ้าของที่พักได้ดำเนินการขอเพิกถอนวีซ่าของนายแอนดรูว์ด้วย โดยหลังถูกปล่อยตัวออกมานายแอนดรูว์ ก็ยังกลับมาก่อเหตุอีกครั้งที่ที่พักเดิม ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมจนเจ้าของห้องเช่าเกิดความหวาดกลัว และแจ้งตำรวจให้เข้าควบคุมตัวอีกครั้ง
“ตำรวจยืนยันว่า การจับกุมเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ที่ต้องรักษาความสงบ เนื่องจากได้รับแจ้งจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และทรัพย์สินเสียหาย และชายดังกล่าวมีอาการเมาอาละวาด ตำรวจจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายคุมตัวดำเนินคดีเพื่อให้เกิดความสงบ ไม่ใช่เพียงเพราะเดินชนป้ายบอกทางตามที่เป็นข่าวในสื่อต่างประเทศรายงาน ส่วนเรื่องที่อ้างว่าบังคับให้จ่ายเงิน ก็ไม่เป็นความจริง ข้อเท็จจริงคือ ชายคนดังกล่าวได้พกทรัพย์สินของมีค่าติดตัวมา ตำรวจได้เก็บรักษาไว้เพื่อไม่ให้นำเข้าห้องควบคุม โดยทำเป็นบันทึกก่อนและหลังการรับทรัพย์สินคืนอย่างถูกต้อง และได้รับคืนไปหลังจากได้รับการปล่อยตัว ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวก็ได้ทำบันทึกไว้เป็นหลักฐานทุกขั้นตอน”