เวลา 10.30 น.วันที่ 7 ก.พ.68 ที่ริมฟุตบาทถนนพหลโยธิน หน้าแดนเนรมิตเก่า จตุจักร กทม. จากกรณีที่นางขจร สมใจ อายุ 48 ปี และ นายบุญหลง อู่นาค อายุ 27 ปี แม่และพี่ชายต่างพ่อ ของนายเจตน์สฤษฏ์ หรือเบียร์ พุ่มแจ่ม อายุ 21 ปี ร้องจ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พาเข้าร้องขอความช่วยเหลือตำรวจกองปราบปราม เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า สงสัยถูกนางนกต่อ วางยาสลบก่อนจะไปรู้ตัวอีกครั้งที่ฝั่งกัมพูชา ซึ่งได้เข้าแจ้งความคนหายกับ พงส.สน.จรเข้น้อยไว้เมื่อ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา
โดยนางขจร ให้ข้อมูลสื่อมวลชน ว่า นายเจตน์สฤษฏ์ หรือเบียร์ รู้จักกับหญิงทาง ไอจี เจ้าของบัญชี “น้ำอิงค์”สงสัยว่าจะเป็นนางนกต่อนั้น
ล่าสุดวันนี้ น.ส.ณัฐชฎา จันทร์น้อย หรือ “อุ๋งอิ๋ง” อายุ 22 ปี มีอาชีพเป็นแม่ค้าออนไลน์ มาพร้อมจ่าคิงส์ สะพานใหม่ เพื่อชี้แจงว่าไม่ได้เป็นนางนกต่อ และไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่พบว่ามีมิจฉาชีพนกรูปเธอไปสร้าง ไอจี.ปลอม
น.ส.ณัฐชฎา เปิดเผยว่า เธอทราบเรื่องเมื่อวานนี้จากเพื่อนที่ส่งลิงค์ข่าวมาให้เธอดู ซึ่งเธอก็ตกใจมาก เพราะรูปภาพที่ปรากฏในไอจีนั้นเป็นรูปภาพของเธอแต่ไม่ใช่ไอจีของเธอจริงๆ ที่ผ่านมานั้นเธอมักจะถูกนำรูปภาพไปใช้แอบอ้าง แต่ส่วนใหญ่จะถูกใช้แอบอ้างในการนำไปขายของมากกว่า ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ถูกนำรูปไปใช้แอบอ้างจนทำให้เกิดการล่อลวง และดูรุนแรง ยืนยันหลังที่เธอได้ดูข่าว เธอไม่รู้จักกับนายเจตน์สฤษฏ์ไม่เคยพูดคุย หรือรู้จักกันมาก่อน วันนี้ที่ออกมาเปิดหน้า เปิดใจ เพราะต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ใช่นางนกต่ออย่างที่ถูกแอบอ้าง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดผลกระทบขึ้นกับเธอเนื่องจากเธอต้องขายของทำให้ลูกค้าไม่ไว้วางใจ
ล่าสุดเมื่อวานนี้ตนและครอบครัว ได้เดินทางไปแสดงความบริสุทธิ์ใจกับพนักงานสอบสวนที่ สน. ดอนเมือง เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมถึงถูกนำรูปภาพไปใช้แอบอ้างหลายครั้ง ด้าน น.ส.ณัฐชฎา ตอบว่า อาจจะเป็นเพราะเธอมียอดผู้ติดตามทั้ง ไอจี และ TikTok รวมกันมากกว่า 2 แสนคนอาจจะทำให้มิจฉาชีพมักจะนำรูปภาพของเธอไปใช้แอบอ้างหลังจากที่ดูข่าวถ้าหากเป็นเรื่องจริงก็รู้สึกเห็นใจทางครอบครัวของผู้เสียหาย แต่ถ้าหากเป็นมิจฉาชีพก็จะดำเนินคดีกลับ และอยากฝากไปถึงทุกคน ที่กำลังคุยกับบุคคลอื่นที่นำรูปของเธอไปแอบอ้าง อย่าไว้ใจ เพราะอาจจะไม่ใช่เธออยากให้ตรวจสอบให้ถี่ถ้วนก่อน ซึ่งตอนนี้เธอก็เสียหายมาก และทำให้เสียชื่อเสียงจนทำให้เกิดความอับอาย
ด้านจ่าคิงส์ เปิดเผยว่าขณะนี้ตำรวจ สน.จรเข้น้อยได้เร่งทำการสืบสวนสอบสวนขยายผล และตอนนี้สามารถหากล้องวงจรปิด จนทำให้รู้ว่าผู้เสียหายขึ้นแท็กซี่จากไปบ้านไปสิ้นสุดที่ จังหวัดสระแก้ว ล่าสุดทางสน. จรเข้น้อยก็ได้มีการเรียกตัวแท็กซี่คนดังกล่าวเข้ามาสอบปากคำเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ทางตำรวจยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยรายละเอียดในคดีได้เนื่องจากจะกระทบกับสำนวนคดี ทางครอบครัวบอกว่าพิกัดล่าสุดของนายเจตน์สฤษฏ์ ส่งมาให้นั้นอยู่ที่เมืองพนมเปญ และตอนนี้เจ้าตัวก็ไม่สบาย จะพาผู้เสียหายแจ้งความที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่นำรูปภาพของผู้เสียหายมาใช้แอบอ้าง
หลังพบ พงส.บก.ปอท.ได้แนะนำให้กลับไปประสาน สน.ดอนเมือง เพื่อแจ้งความเอาผิดคนเอารูปเธอไปใช้ใน ไอจี ดังกล่าว