ตามนโยบายพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะ หัวหน้าส่วนอำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ กก.สืบสวน บช.ทท. นำโดย พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจ และ พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ รักษา ตรวจสอบธุรกิจนำเที่ยวและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในพื้นที่บางละมุง จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 16-17 ก.พ.2568 ดังนี้
วันที่ 16 ก.พ.2568
- จับกุมชายชาวรัสเซียลักลอบเป็นมัคคุเทศก์ ในข้อกล่าวหา
1.ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน ตาม พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551
2.เป็นบุคคลต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว แต่ลักลอบประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
-จับกุมตัวชาวออสเตรเรียขายกัญชาให้ชาวต่าวชาติไม่มีใบอนุญาตทำงาน ในข้อกล่าวหา
เป็นบุคคลต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว แต่ลักลอบประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
-จับกุมชาวปากีสถานทำหน้าที่เชิญชวนชาวต่างชาติมาซื้อของ ไม่พบใบอนุญาตทำงาน 2 ราย ในข้อกล่าวหา
เป็นบุคคลต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว แต่ลักลอบประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
ทั้งหมดนำตัวส่ง พงส.สภ.เมืองพัทยาเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
และต่อมา วันที่ 17 ก.พ. 2568
ปฏิบัติการบุกค้นบริษัทต้องสงสัย กลางเมืองพัทยา หลังศาลจังหวัดพัทยาอนุมัติหมายค้น
การตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น จำนวน 5 คูหา โดยมีพนักงานทั้งชาวไทยและต่างชาติ ส่วนใหญ่นั่งทำงานอยู่บนชั้น 2 และ 3 ซึ่งเป็นสำนักงาน เจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพถ่ายเพื่อเป็นหลักฐาน
พบแรงงานเถื่อน 9 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ไม่มีใบอนุญาตทำงาน
จากการตรวจสอบเอกสาร พบแรงงานต่างด้าว9 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน มีเพียงสำเนาหนังสือเดินทาง แต่ ไม่มีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ประกอบอาชีพหรือรับจ้างทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
คุมตัวส่งสอบสวน เดินหน้าดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังแจ้งข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปราบปรามแรงงานเถื่อนและอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและนักลงทุน
ตำรวจท่องเที่ยวประชาสัมพันธ์ แจ้งเบาะแสโทร 1155 ตลอด 24 ชั่วโมง
ตำรวจท่องเที่ยวขอความร่วมมือประชาชน หากพบการกระทำผิดเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวหรืออาชญากรรมข้ามชาติ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วน 1155 ตลอด 24 ชั่วโมง
ตำรวจท่องเที่ยว #แรงงานเถื่อน #กวาดล้างอาชญากรรมข้ามชาติ
อติชาตสุขยืนรายงาน
