วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 21, 2025
หน้าแรกอาชญากรรม”เสี่ยหมูกบินทร์บุรี“ ร้องขอความเป็นธรรมนายกฯ กรณีโดนอดีตนายพลตำรวจบังคับเซ็นยกที่ดิน ”ตลาดไทยประคอง“ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

Related Posts

”เสี่ยหมูกบินทร์บุรี“ ร้องขอความเป็นธรรมนายกฯ กรณีโดนอดีตนายพลตำรวจบังคับเซ็นยกที่ดิน ”ตลาดไทยประคอง“ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

เมื่อเวลา 16.00 น วันที่ 19 ก.พ.68 ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์รัฐบาล 1111 สำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี นายวุฒิโรจน์ อริยเดชอนันต์ หรือ“เสี่ยหมูกบินทร์บุรี“ เดินทางมายื่นหนังสือร้องนายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือกรณีได้รับความเดือดร้อนจากการถูกกลุ่มนายทุนจีนร่วมกับอดีตนายตำรวจข่มขู่บังคับให้โอนที่ดินซึ่งเป็นตลาดสดในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่เป็นคดีความฟ้องร้องกันมาตั้งแต่ปี 63

เสี่ยหมูกบินทร์บุรี กล่าวว่า ตนได้ติดต่อซื้อขายที่ดินจำนวน 25 ไร่ จากเจ้าของเดิมที่เป็นเจ้าของข้าวเกรียงฮานามิ เมื่อปี 53 เข้าไปพัฒนาที่ดินผืนนี้จนเป็นตลาดไทยประคอง เปลี่ยนชื่อเจ้าของที่ดินให้น้าสาวมาถือครองแทน โดยหาเงินสดมาจ่ายปิดการซื้อขาย ขณะนั้นมีอัยการที่ตน รู้จักและให้ความนับถืออยู่ได้แนะนำให้ไปกู้เงินจากนายทุนคนจีนที่ประกอบธุรกิจอยู่แถวพัทยา จำนวน 40 ล้านบาท ทำสัญญาว่าจะต้องจ่ายคืน 55 ล้านบาท ในเวลา 18 เดือน โดยนายทุนคนจีนได้ขอให้เปลี่ยนชื่อเจ้าของที่ดินจากน้าสาวมาเป็นคนในครอบครัวของคนจีนเพื่อเป็นหลักค้ำประกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้แค่ 2 เดือน นายทุนคนจีนก็ไปพาอดีตนายตำรวจผู้ใหญ่กับพวกมายึดครองตลาดไทยประคองไปบริหารเอง

ตนจึงไปร้องขอความช่วยเหลือกับนายพลตำรวจโทอีกท่านหนึ่งในเวลานั้นยังอยู่ในราชการ ขอค่าดำเนินการจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อที่จะเป็นค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบภูมิหลังของนายทุนจีนและครอบครัวซึ่งปรากฏว่ามีการสวมบัตรประชาชนคนตายมีการปลอมดีเอ็นเอ ก่อนที่ตำรวจชุดที่ไปตรวจสอบใช้เป็นเงื่อนไขไปเรียกผลประโยชน์จากนายทุนจีนคนนี้ด้วย ทั้งหมดเกรงว่าจะเป็นเรื่องรที่จะต้องเอาผิดหลายหน่วยงาน จึงตกลงยอมคืนที่ดินให้กับตนโดยให้ตนจ่ายเงินคืนจำนวน 55 ล้านบาท


ซึ่งระหว่างนั้นที่ดินผืนนี้มีราคามากกว่า 100 ล้านบาท ทำให้นาย พลตำรวจโทนายนี้ทำการฮุบที่ดินผืนนี้ไปอีกครั้ง โดยการบังคับข่มขู่ตนให้เซ็นยกที่ดินให้กับเขาโดยที่ตนไม่เต็มใจข่มขู่ตนและภรรยาเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจึงจำใจต้องเซ็นไปให้บนโรงพักกบินทร์บุรีที่มีลูกน้องตำรวจของเขาคุมสถานการณ์ในวันนั้น ตนได้ไปแจ้งความกองปราบปรามดำเนินคดีอดีตนายพลตำรวจโทนายนี้กับลูกน้อง ฐานกรรโชกทรัพย์นายพลตำรวจโท ส่วน นายพลตำรวจโท แจ้ง ความว่าตนว่าบุกรุก และทำให้เสียทรัพย์เพราะเหตุที่ตนเข้าไปในตลาดของตนเองแท้ๆ


ส่วนตนก็ไปแจ้งความที่ สภ. กบินทร์บุรีรวมทั้งมาร้องที่กองปราบปรามเมื่อปี 2563 ต่อเนื่องจนถึงปี 2566 ปรากฏว่าคดีความไม่คืบหน้าตนจึงไปนอนขวางบนถนนพหลโยธิน ด้านหน้ากอง บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อปลายปี 66 จนสุดท้ายตำรวจได้สรุปสำนวนส่งอัยการแต่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง โดยไม่มีเหตุผลประกอบ เมื่ออัยการได้ตรวจสำนวน ก่อนจะส่งกลับมาให้ตำรวจกองปราบฯ สอบเพิ่มเติม ซึ่งคดีความที่ตนดำเนินการฟ้องร้องเองอยู่เป็นคดีแพ่งและที่แจ้งความเนินคดีนายพลตำรวจโท เป็นคดีอาญา ด้วย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วตนได้ไปร้องขอความเป็นธรรมกับ ผบ.ตร.มาแล้วในกรณีที่ถูกตำรวจลูกน้อง พลตำรวจโท กลั่นแกล้งดำเนินคดีตน ก่อนที่จะมาร้องขอความเป็นธรรมต่อนายกรัฐมนตรีที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลในวันนี้ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมในการเอาผิดบุคคลที่มายึดตลาดไทยประคองทั้งหมดทุกคนต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts