วันพฤหัสบดี, มีนาคม 6, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมฉาว! ป.ป.ท.-ปปป.รวบ อดีตพนักงานการไฟฟ้านครหลวง เบิก OT เท็จ 18 เดือน กว่า 1 แสนบาท

Related Posts

ฉาว! ป.ป.ท.-ปปป.รวบ อดีตพนักงานการไฟฟ้านครหลวง เบิก OT เท็จ 18 เดือน กว่า 1 แสนบาท

“…ป.ป.ท. และ ปปป. ร่วมกันจับกุมอดีตพนักงานธุรการของการไฟฟ้านครหลวง หลังพบว่ามีการบันทึกข้อมูล OT เท็จเพื่อเบิกเงินล่วงหน้ากว่า 115,859.52 บาท เป็นระยะเวลา 18 เดือน หลังการตรวจสอบ ป.ป.ท. ชี้มูลความผิด แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมไปพบพนักงานอัยการ ทำให้ต้องออกหมายจับและติดตามตัว ย้ำว่าผู้ต้องหายังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด…”

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ท.) ร่วมกับ ตำรวจสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปป.) ได้ดำเนินการจับกุม พนักงานธุรการของการไฟฟ้านครหลวง หลังพบว่ามีการบันทึกข้อมูลการทำงานล่วงเวลา (OT) เป็นเท็จ เพื่อเบิกเงินค่าล่วงเวลาจากองค์กรรวมกว่า 115,859.52 บาท เป็นระยะเวลาต่อเนื่องถึง 18 เดือน

การดำเนินการครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมด้วย นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการฯ และ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการฯ โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับ พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ รองผู้กำกับการ 2 บก.ปปป. เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.88/2567

สาเหตุของการจับกุม: ผู้ต้องหา ซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง พนักงานธุรการ 5 แผนกบริหารทั่วไป ฝ่ายออกแบบระบบไฟฟ้าและงานวิศวกรรมโยธา ของการไฟฟ้านครหลวง ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2553 ถึงพฤศจิกายน 2554 ได้ใช้อำนาจหน้าที่ในการบันทึกข้อมูล OT ของพนักงานทั้งหมดในแผนก รวมถึงตนเอง โดยบันทึกข้อมูลเท็จลงในระบบคอมพิวเตอร์ (ระบบ SAP) โดยมิได้ขออนุญาตจากหัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชาตามระเบียบ ส่งผลให้การไฟฟ้านครหลวงโอนจ่ายเงิน OT เท็จเข้าบัญชีเงินเดือนของผู้ต้องหาเป็นระยะเวลา 18 เดือน

หลังการตรวจสอบ คณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติชี้มูลความผิด แต่ผู้ต้องหาไม่ยอมไปพบพนักงานอัยการเพื่อยื่นฟ้องคดีตามกำหนดนัด ทำให้พนักงานสอบสวนต้องออกหมายจับและติดตามตัวผู้ต้องหาในที่สุด

จากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาได้เปลี่ยนอาชีพไปเป็นครูสอนดนตรีที่ศูนย์นันทนาการแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าจับกุมตัวได้สำเร็จ เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ป.ป.ท. ย้ำว่า “ผู้ต้องหายังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด” และ “ความผิดดังกล่าวเกิดจากการกระทำส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต้นสังกัด”

#สืบจากข่าว รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts