เหตุการณ์สะเทือนใจเกิดขึ้นที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อเจ้าอาวาสวัดดังในอำเภอกุมภวาปี ถูกจับกุมในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กชายวัยเพียง 12 ปี ซึ่งเป็นเด็กที่แม่ฝากไว้เพื่อบวชเรียนและอาศัยอยู่ที่วัด โดยเหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยหลังจากครูประจำชั้นสังเกตเห็นอาการผิดปกติของเด็กชาย และสอบถามจนทราบความจริง
ความเป็นมา:
นางน้อย (นามสมมุติ) แม่ของเด็กชายวัย 12 ปี ผู้เสียหาย ได้ร้องทุกข์ผ่านสายด่วน 1134 มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ระบุว่า ตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีฐานะยากจน จึงตัดสินใจฝากลูกชายไว้ที่วัดเพื่อบวชเรียนและศึกษาต่อ เนื่องจากยังไม่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เด็กชายจึงยังไม่สามารถบวชเป็นเณรได้ และต้องอาศัยอยู่ที่วัดเพื่อรอเวลาบวช
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ครูประจำชั้นได้โทรศัพท์แจ้งว่าน้องขาดเรียนไป 1 วัน และเมื่อกลับมาโรงเรียนก็มีอาการซึมเศร้า หลังสอบถามจึงทราบว่าเด็กชายถูกเจ้าอาวาสข่มขืนกระทำชำเราทางทวารหนักจนมีไข้สูงและไม่สบาย แม่ของเด็กชายจึงรีบเดินทางไปรับลูกและขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าอาวาส
การดำเนินคดี:
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานงานกับ พ.ต.อ.วิชาญ สุธรรมแปง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกุมภวาปี เพื่อให้แม่ของเด็กชายเข้าแจ้งความและดำเนินคดีทันที พร้อมประสานให้นางเยาวพรรณ แช่มพุดซา หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี รับตัวเด็กชายและแม่เข้าสู่กระบวนการคุ้มครอง
หลังจากตรวจร่างกายและสอบสวนโดยสหวิชาชีพ เด็กชายได้ให้การชัดเจนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ล่าสุดในวันที่ 19 มีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับเจ้าอาวาสในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี พร้อมนำตัวไปสึกจากการเป็นพระและเตรียมนำตัวฝากขังในวันที่ 20 มีนาคม 2568 โดยคัดค้านการประกันตัว
คำกล่าวจากปวีณา หงสกุล:
นางปวีณาได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานอย่างรวดเร็ว และยืนยันว่ามูลนิธิจะติดตามช่วยเหลือเด็กชายร่วมกับบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี รวมถึงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ต่อไป
สถิติที่น่าสนใจ:
จากข้อมูลของมูลนิธิปวีณาฯ ในปี 2567 พบว่ามีการร้องทุกข์เกี่ยวกับปัญหาข่มขืนและอนาจารสูงถึง 790 ราย โดยกลุ่มอายุที่ถูกกระทำมากที่สุดคือ 11-15 ปี (47.22%) รองลงมาคือ 16-20 ปี (20.38%) และ 0-10 ปี (13.92%) ซึ่งผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิด เช่น ปู่เลี้ยง ตาเลี้ยง และพ่อเลี้ยง
อติชาต สุขยืน รายงาน






