คณะสมาชิกวุฒิสภาสำรอง (สว.สำรอง) กว่า 30 คน นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ได้เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บก.ปปป.) ในวันที่ 19 มีนาคม 2568 เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวหา นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในข้อหาหลีกเลี่ยงการปฏิบัติหน้าที่และทุจริตต่อหน้าที่ หลังมีพฤติการณ์ปล่อยปละละเลยให้เกิดการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น:
พล.ต.ท.คำรบ เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง สว.ในระดับประเทศ มีผู้ตรวจการเลือกตั้งได้แจ้งเตือนนายแสวงฯ ถึงการกระทำผิดกฎหมายของผู้สมัคร สว.หลายราย ที่นำสมุด สว.3 ซึ่งมีการจดหมายเลขผู้สมัครอื่น ๆ ไว้ล่วงหน้า (โพยล็อก) เข้าไปใช้ในการเลือกตั้งรอบไขว้ โดยผู้ตรวจการเลือกตั้งเสนอให้ห้ามไม่ให้นำสมุดดังกล่าวเข้าไปในคูหาเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริต
แต่ที่น่าตกใจคือ นายแสวงฯ กลับตอบว่า “ถึงแม้จะรู้ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ เขาก็คิดวางแผนทำกันมาแบบนี้แหละ ปล่อยให้เขานำสมุด สว.3 เข้าไปในคูหาเลือกตั้งได้” ซึ่งคำพูดนี้ถือเป็นการละเลยหน้าที่อย่างชัดเจน
การดำเนินคดี:
หลังจากนั้น ผู้ตรวจการเลือกตั้งได้รายงานข้อเท็จจริงนี้ต่อประธาน กกต. เพื่อให้มีการสืบสวนและไต่สวน แต่กลับพบว่ามีการพยายามช่วยเหลือนายแสวงฯ ทำให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งต้องแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจบางปู และยื่นเรื่องให้ประธาน กกต.แก้ไข แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ
คณะ สว.สำรองจึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความที่ บก.ปปป. เพื่อให้มีการสืบสวนเพิ่มเติม โดยพฤติกรรมของนายแสวงฯ เข้าข่ายความผิดตาม มาตรา 32 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท และเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 20 ปี นอกจากนี้ ยังอาจมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ในฐานะเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่























