สามเสือเอเชียตะวันออก จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ แม้จะมีอดีตที่ขัดแย้ง ประวัติศาสตร์อันขมขื่น แต่ปัจจุบันทั้ง 3 ชาติ ต่างยังต้องพึ่งพากันและกัน ทั้งในด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และความเกี่ยวพันระหว่างประชาชนทั้ง 3 ชาติ
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความขัดแย้ง หรือ ความกลมเกลียวของ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนโลก และสันติภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
การพบกันครั้งล่าสุดระหว่าง หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน กับ ทาเคชิ อิวายะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น และ โช แทยูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ในการประชุมระดับไตรภาคี ของรัฐมนตรีต่างประเทศจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ครั้งที่ 11 ณ กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2025 เป็นอีกหนึ่งบริบทส่องแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวกับสื่อมวลชนหลังการประชุมสิ้นสุดลงว่า “ทั้ง 3 ชาติเห็นพ้องที่จะเสริมสร้างการสื่อสาร เพิ่มความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และกระชับความร่วมมือให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น”
หวังระบุว่า ทั้งสามประเทศ เห็นพ้องถึงความคืบหน้าเชิงบวก นับตั้งแต่การประชุมสุดยอดไตรภาคี ครั้งที่ 9 ตระหนักถึงความจำเป็น และความรับผิดชอบ ในการเสริมสร้างการสื่อสาร เพิ่มความไว้วางใจซึ่งกันและกัน กระชับความร่วมมือ สร้างเสถียรภาพระดับภูมิภาค ท่ามกลางฉากหลังของภูมิทัศน์ระหว่างประเทศ ที่สลับซับซ้อนและปั่นป่วน
ทั้งสามฝ่ายตกลงยกระดับการประสานงาน และความร่วมมือหลายกลไก เช่น อาเซียนบวกสาม หรือ อาร์เซ็ปต์ สร้างภูมิภาคนิยมแบบเปิด ยึดมั่นในพหุภาคีและการค้าเสรี ที่เป็นประโยชน์ ครอบคลุมมากขึ้น
ความร่วมมือระดับไตรภาคีของจีน ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ จึงเป็นพลังการจัดระเบียบโลกใหม่ ให้มีความหลากหลายและก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
ขอบคุณภาพประกอบจากซินหัว