วันจันทร์, มีนาคม 31, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมผู้ปกครองร้องทุกข์ ผบ.ตร.ลูกชายโดนทำร้ายคดีไม่คืบหน้า แถมยังข่มขู่ทำร้ายตลอดมา

Related Posts

ผู้ปกครองร้องทุกข์ ผบ.ตร.ลูกชายโดนทำร้ายคดีไม่คืบหน้า แถมยังข่มขู่ทำร้ายตลอดมา

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 28 มี.ค.68 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน กทม. ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ พา น.ส.ณัฐ นามสมมุติ อายุ 36 ปี มารดา ด.ช.เอ อายุ 13 ปี นักเรียน ม.3 โรงเรียนดังย่านสำโรงเหนือ เข้าร้องขอความเป็นธรรม ผบ.ตร.เนื่องจากบุตรของผู้เสียหายถูกกลุ่มนักเรียนวัยรุ่นอีกโรงเรียนหนึ่ง ประมาณ 9 คนข่มขู่คุกคามพยายามหาเรื่องทำร้ายตลอดมา

ทนายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากผู้ปกครองได้พาลูกชายเจ้าแจ้งความตำรวจ สภ.สำโรงเหนือแล้ว ยังได้พาไปเข้าพบผู้อำนวยการโรงเรียนคู่กรณี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากัน แต่ผ่านไปไม่นานกลุ่มผู้ก่อเหตุยังคงก่อเหตุซ้ำ โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามและใช้อาวุธมีดและปืนข่มขู่

นอกจากนี้กลุ่มเด็กนักเรียนผู้ก่อเหตุยังได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันกับบุคคลอื่นอีกๆ อีกหลายครั้งหลายคราว

น.ส.ณัฐ ผู้ปกครอง เล่าว่า เหตุเกิดครั้งแรกเมื่อ 19 ส.ค.67 เวลาประมาณ 17.00 น. ขณะที่ลูกชายไปเตะบอลกับเพื่อนนักเรียนด้วยกัน แถวด่านสำโรง 4/1 ต. สำโรง เหนือ อ.เมือง สมุทรปราการ ก่อนจะมีกลุ่มเด็กนักเรียนวัยรุ่นจำนวน 9 คน ถืออาวุธเข้ามาจะทำร้ายแต่มีพลเมืองดีเข้าไปช่วยห้าม ก่อนจะใช้อาวุธลักษณะคล้ายปืนที่พลเมืองดีจากนั้นก็พากันแยกย้ายหลบหนีไป

โดนไปรับลูกชายบอกว่าผมนักเรียนคู่กรณีได้โพสต์ Facebook ท้าทายให้ไปเจอกันแต่เขาปฏิเสธ ก่อนที่จะตามมาหาเรื่องที่สนามฟุตบอล
วันรุ่งขึ้นตอนจึงพาลูกชายไปแจ้งความลงประจำวันไว้ที่สภ. สำโรงเหนือ

นอกจากนี้ยังได้ไปร้องเรียนกับผอ. โรงเรียนคู่อริของลูกชายโดยทางผอ. ได้เรียกผู้ปกครองของนักเรียนทั้งเก้าคนมาทำข้อตกลงว่าจะไม่ก่อเหตุลักษณะแบบนี้อีกมีการจับไม้จับมือโดยมีผู้ใหญ่บ้านมาเป็นสักขีพยานด้วย

หลังจากนั้นผ่านมาได้สามเดือน 17 พ.ย.67 ขณะที่ลูกชายตนขี่ จยย. กลับบ้านกับน้องชายระหว่างทาง ผ่านซอยแบริ่ง 58 ปรากฏว่ามีรถ จยย. จำนวนสามคันคนนั่งซ้อนมากันรวมแล้วเจ็ดคนพยายามใช้อาวุธมีดและปืนโชคดีที่ลูกชายขับหลบหนีทัน ก่อนโทรศัพท์ให้คุณพ่อไปรับกลับบ้าน

หลังจากนั้นก็พาไปแจ้งความตำรวจสภ. สำโรงเหนือเป็นครั้งที่สอง ได้ให้ข้อมูลกับทางตำรวจว่านักเรียนกลุ่มนี้มีอาวุธปืนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปทางโรงเรียนคู่อริ วันรุ่งขึ้น รอง ผอ. นำอาวุธปืนมาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่เมื่อตรวจสอบดูแล้วพบว่าเป็นคนละกระบอกกับที่ภาพวงจรปิดจับภาพนักเรียนกลุ่มนี้โชว์อาวุธปืน

13 ธันวาคม 67 ตนได้พาลูกชายไปร้องให้กระทรวงศึกษาธิการตรวจสอบการทำงานของผอ. โรงเรียนคู่อริ จนถึงวันนี้ก็เงียบไม่มีคำตอบใดใดจากทางกระทรวงศึกษาธิการ
ตนเกรงว่าลูกชายจะไม่ได้รับความปลอดภัยแม้จะทำข้อตกลงกับทางโรงเรียนคู่อริแล้วถึงสองครั้งแต่ก็ยังกลับมาก่อเหตุซ้ำซากอีกเกรงว่าสักวันนึงลูกชายอาจจะพลาด โดนนักเรียนคู่อริทำร้ายได้จึงได้ปรึกษาทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรีให้ช่วยพามาร้องเพราะว่ากำชับทางสภ. สำโรงเหนือ เร่งรัดป้องกันปราบปรามนักเรียนนักเลงกลุ่มนี้ให้ถึงที่สุด

เบื้องต้นได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายครั้ง รวมทั้งร้องขอความเป็นธรรมต่อหน่วยงานต่างๆ และเข้าพบผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อขอให้แก้ไขปัญหา พร้อมกับได้มอบหลักฐาน (ภาพถ่าย, วิดีโอ, รายชื่อ) ให้กับตำรวจแต่ก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ ไปขอความเป็นธรรมที่ สภ. และชี้แจงว่าการทำงานล่าช้า ก่อนจะมาร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เนื่องจากคดีไม่มีความคืบหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดำเนินการสอบสวนอย่างจริงจัง หลักฐานสำคัญไม่ถูกนำเข้าสู่สำนวนคดี สร้างความหวาดกลัวแก่ผู้เสียหายและบุตรเกรงว่าจะได้รับอันตราย

จำเป็นต้องมาร้อง ผบ.ตร.เพื่อต้องการให้คดีมีความคืบหน้า ให้ทำการจับกุมและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย

จากสถานการณ์นี้ ผู้เสียหายกำลังประสบปัญหาในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตนเองและบุตร การที่ทนายความเข้ามายื่นเรื่องต่อ ผบ.ตร. แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะผลักดันให้คดีมีความคืบหน้าและให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษตามกฎหมาย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts