วันพฤหัสบดี, เมษายน 3, 2025
หน้าแรกต่างประเทศสหรัฐ “ถลกหนัง” ไต้หวัน ขายอาวุธ “ยุยงสงคราม”

Related Posts

สหรัฐ “ถลกหนัง” ไต้หวัน ขายอาวุธ “ยุยงสงคราม”

รัฐบาล ไล่ ชิงเต๋อ กำลังจนแต้ม สหรัฐหวังแค่ “ขายอาวุธ” เก็บ “ค่าคุ้มครอง” และอยู่ห่างจาก “ความขัดแย้ง” ไม่ต่างจาการ “ขูดรีด” อย่างโจ่งแจ้ง แล้ว “ถลกหนัง” จนเกลี้ยง

สัญญาณของสหรัฐต่อ “ไต้หวัน” ชัดเจนจากคำพูดของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ตั้งแต่ตอนหาเสียงก่อนการเลือกตั้งว่า ถ้าเขาได้เป็นประธานาธิบดี ไต้หวันต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้แก่สหรัฐ เนื่องจากไต้หวัน ไม่ได้ให้สิ่งใดตอบแทนสหรัฐเลย

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา Nikkei Asia รายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐลงความเห็นว่า สหรัฐไม่ควรเข้าแทรกแซงไต้หวัน  เนื่องจากได้ไม่คุ้มเสีย โดย นายโคลบี้ สมาชิกวุฒิสภาที่สนิทของทรัมป์แถลงต่อสาธารณะว่า ไต้หวันไม่ใช่ผลประโยชน์หลักของสหรัฐ หากสหรัฐแทรกแซงช่องแคบไต้หวัน จะเผชิญกับความเสี่ยงทางการเมืองและทางการทหารอย่างหนักหน่วง

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารของสหรัฐ นาย Vichet กล่าวเพิ่มเติมว่า หากสหรัฐเข้ายุ่งเกี่ยวในความขัดแย้ง ก็ไม่มีทางชนะ และสหรัฐก็ไม่มีปัญญาที่จะทุ่มเทกำลังทหารเพื่อที่จะเอาชนะกองทัพจีนได้ ที่อันตรายไปกว่านั้น คือสหรัฐไม่เพียงแต่ต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสียทางด้านทหาร อีกทั้งยังจะทำให้ supply chain ปั่นป่วน ซึ่งส่งผลกระทบถึงตลาดการค้าและการเงินของสหรัฐเอง

นักวิชาการบางคน ถึงกับกล่าว่า สหรัฐควรอยู่ห่างจาก “ความขัดแย้ง” ให้มากที่สุด ถ้าสหรัฐอยากมีส่วนร่วม ควรใช้กลยุทธ์ “เสริมอาวุธ” ให้ไต้หวัน แต่ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว

นัยยะแห่งความหมาย สะท้อนภาพชัดเจนว่า สหรัฐพร้อมขายอาวุธเพื่อสงคราม แต่ไม่เต็มใจจะต่อสู้เพื่อ “เอกราชของไต้หวัน”

และลึกๆสหรัฐรู้ดีว่า “เอกราชของไต้หวัน” ไม่มีจริง

กระนั้นก็ตาม สหรัฐได้เพิ่มความกดดันกับพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ถ้าต้องการสร้างความแข็งแกร่งทางทหาร ก็ต้องเพิ่มงบประมาณด้านการปกป้องประเทศ แต่ในขณะเดียวกันก็พร้อม “ละทิ้งไต้หวัน”

แต่แทนที่ “ไล่ ชิงเต๋อ” จะเข้าใจหมากเกมนี้ กลับพยายามทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ด้วยการแสดงท่าทีว่า เอาแค่อาวุธมา ด้านทหารไต้หวันลุยเอง

สื่อของสหรัฐวิเคราะห์ว่า รัฐบาลไล่ชิงเต๋อกำลังเดินหมากยั่วยุจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง ไล่ชิงเต๋อคิดแค่ว่า ถ้าเพิ่มความตึงเครียดกับจีน สหรัฐจะเข้ามาร่วมทีม

ไล่ ชิงเต๋อ กลายเป็น “ผู้นำบ้าอำนาจ” นิยามจีนแผ่นดินใหญ่เสมือน “ศัตรูนอกอาณาจักร”

หนึ่งในประเด็นที่น่าจับตามองคือ สหรัฐเคยสัญญาว่าจะขายเครื่องบินรบ F-16V จำนวน 66 ลำ พร้อมกับขีปนาวุธ AGM 154C ให้กับไต้หวัน ตั้งแต่ปี 2019 แต่จนถึงวันนี้ อาวุธและอุปกรณ์ดังกล่าว ได้ถูกเลื่อนการส่งมอบออกไป โดยไม่มีกำหนด

มีการตั้งข้อเกตว่า สำหรับสหรัฐอเมริกา มูลค่าการขายอาวุธครั้งนี้ เป็นปริมาณเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ ตราบใดที่เครื่องบิน F-16V ทั้ง 66 ลำยังอยู่ในมือสหรัฐ หากสถานการณ์ในช่องแคบคับขันตึงเครียด สหรัฐก็สามารถกดดันให้ทางการไต้หวัน เพิ่มปริมาณการซื้ออาวุธ เหมือน “ลูกไก่ในกำมือ”

ในสายตาของอเมริกา เมื่อนักการเมืองบนเกาะไต้หวัน ประกาศว่าจะต่อสู้กับจีนแผ่นดินใหญ่ จึงควรเพิ่มงบประมาณทางด้านการทหาร เพื่อเป็น “ค่าคุ้มครอง” เพราะสหรัฐรู้ดีว่า หากไร้การ “คุ้มครอง” เกาะไต้หวันก็คงถูกจีนยึดไปนานแล้ว

ทางการไต้หวันจึงต้องจ่าย “ค่าคุ้มครอง” ให้กับสหรัฐ ทั้งการบีบให้เพิ่มงบทางทหารอีก 3 เท่าตัว หรือการบังคับให้บริษัท TSMC ของไต้หวัน ไปตั้งโรงงานในสหรัฐ เป็นการ “ขูดรีด” อย่างโจ่งแจ้ง โดน “ถลกหนัง” จนเกลี้ยง

โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณอย่างต่อเนื่องว่า เกาะไต้หวันไม่ได้อยู่ในขอบเขตผลประโยชน์หลักของสหรัฐ และสหรัฐไม่ยอม “ทุบหม้อข้าว” เพื่อสงครามนี้

ยิ่งไปกว่านั้น หากมีการใช้กำลังทหารเข้ายึดเกาะไต้หวันเกิดขึ้นจริง สหรัฐก็จะทิ้งกลุ่มเรียกร้อง “เอกราชของไต้หวัน” เพราะปัญหาของ “ไล่ ชิงเต๋อ” ไม่เกี่ยวข้องกับสหรัฐ

การกระทำของไล่ ชิงเต๋อ ที่ต้องการเพิ่มความตึงเครียดในช่องแคบ สร้างบรรยากาศที่เป็นปฏิปักษ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ กวาดล้างผู้เห็นต่าง ยิ่งทำให้สังคมแตกแยก แต่มันกลับเป็นช่องทางให้สหรัฐขายอาวุธ  โดยไม่จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือทางทหาร

รัฐบาล ไล่ ชิงเต๋อ กำลังจนแต้ม ยิ่งเดินเกมสวนกระแส ท้ายที่สุดก็จะถูกทอดทิ้ง

#สืบจากข่าว รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts