วันอาทิตย์, เมษายน 13, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจไซเบอร์รวบวัยรุ่นขายปืนออนไลน์หากำไรแต่งรถขยายผลจับเฟซบุ๊ก “จูบจิ๋ม ที่ริมบึง” รวบเพิ่มอีกสอง เผยขายปืนหาเงินเที่ยวสงกรานต์

Related Posts

ตำรวจไซเบอร์รวบวัยรุ่นขายปืนออนไลน์หากำไรแต่งรถขยายผลจับเฟซบุ๊ก “จูบจิ๋ม ที่ริมบึง” รวบเพิ่มอีกสอง เผยขายปืนหาเงินเที่ยวสงกรานต์

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 ได้สืบสวนพบการซื้อขายอาวุธปืนผิดกฎหมายทางกลุ่ม Facebook กลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีสมาชิกเกือบ 2 หมื่นคน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แฝงตัวเข้าไปในกลุ่มและติดต่อขอซื้ออาวุธปืนจากสมาชิกในกลุ่ม ต่อมาได้มีบัญชีเฟซบุ๊ก “Ben Kanasanun” ตกลงขายอาวุธปืน ดัดแปลงเลียนแบบ Glock 19 จำนวน 1 กระบอก โดยนัดส่งมอบกันที่ บริเวณทางเข้าวัดเขาพระบาท หมู่ที่ 6 ต.บ้านแลง อ.เมืองระยอง จ.ระยอง

เมื่อถึงเวลานัดพบ นายคณัสนันท์ หรือ เบน อายุ 20 ปี ได้ขับรถมายังจุดนัดพบ พ.ต.ท.นพดล บุตรวงษ์ และ พ.ต.ต.สันติ ชื่นชม สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 พร้อมด้วยกำลังที่ซุ่มอยู่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น พบของกลางจำนวน 3 รายการ ได้แก่ อาวุธปืนสั้นแบลงก์กันดัดแปลงใช้กับกระสุนขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน .380 จำนวน 1 นัด ซองกระสุนปืน จำนวน 1 ซอง

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่า นายคณัสนันท์ หรือ เบน ได้สั่งซื้ออาวุธปืนแบบหักลำ จากผู้ใช้บัญชี Facebook ชื่อ “จูบจิ๋ม ที่ริมบึง สำรองสอง” ไว้ เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบว่า เจ้าของเฟซบุ๊ก “จูบจิ๋มฯ” ดังกล่าวพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงได้วางแผนให้ นายเบน ติดต่อนัดส่งมอบอาวุธปืนกันที่บริเวณทางเข้าวัดเขาพระบาท หมู่ที่ 6 ต.บ้านแลง อ.เมืองระยอง จ.ระยอง

เมื่อถึงเวลานัดหมาย พบ รถยนต์ ยี่ห้อ นิสสัน สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับมาจอดยังจุดนัดหมาย ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าวโดยสารกันมา 2 คน ทราบภายหลัง คือ นายภาคภูมิ หรือ ภูมิ อายุ 26 ปี เป็นผู้ขับขี่ และ นายสหัสวรรษ หรือ จี อายุ 25 ปี เป็นผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบอาวุธปืนสั้นแบลงก์กันดัดแปลงใช้กับกระสุนขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 9 นัด และ ซองกระสุนปืน จำนวน 1 ซอง อยู่ในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลของนายภาคภูมิ หรือ ภูมิ และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจพบอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์แบบหักลำ จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 49 นัด สำหรับจัดส่งตามนัดหมาย และพบกระสุนปืนขนาด .380 อีกจำนวน 28 นัด ซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บของภายในรถยนต์ที่ นายภูมิ และนายจี ขับขี่มา

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ร่วมกัน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” และ “ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมดและรถยนต์ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนคันดังกล่าวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

เบื้องต้น นายเบน รับสารภาพ ตนมีความชื่นชอบในอาวุธปืน จึงเข้าไปอยู่ในกลุ่มเพจขายปืนต่างๆ โดยตนเองเคยซื้อปืนมา แล้วนำไปขายต่อได้กำไรกระบอกละประมาณ 2,000 – 3,000 บาท จึงติดใจทำเรื่อยมาเพื่อหาเงินมาแต่งรถยนต์ ส่วนนายภูมิและนายจี มีอาชีพทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งย่านบ่อวิน โดยนายภูมิ รับสารภาพว่า ของกลางอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นได้นั้น ตนได้สั่งซื้อมาจากเพจ Facebook ต่างๆ แล้วนำมาขายต่อทางออนไลน์ เพื่อหาเงินเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในขณะที่นายจี ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าตนไม่ทราบว่านายภูมินำอาวุธปืนมาในรถ ตนเพียงแค่นั่งมาเป็นเพื่อนเท่านั้น

โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนขายผลไปยังบัญชีโซเชียลต่าง ที่เป็นที่มาของอาวุธปืนผิดกฎหมายดังกล่าว เพื่อนำตัวผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts