หลังโซเชียลออกมาแฉตึกร้าง กสทช. นนทบุรี ที่ถูกปล่อยทิ้งร้างกว่า 3 ปี สนง.กสทช.ได้ออกมาชี้แจง เหตุที่การก่อสร้างอาคารที่ทำการใหม่ กสทช. มูลค่า 2,643 ล้านต้องชะงักลง (ตามเอกสารชี้แจง)
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ กสทช. ชี้แจงกลับทำให้ผู้คนในสังคมกังขา และวิพากษ์หนักยิ่งขึ้นไปอีก!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา สำนักงาน กสทช.มีหนังสือชี้แจงต่อกรณีดังกล่าว สรุปใจความว่า “สำนักงาน กสทช. มีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการใช้งานอาคารสำนักงาน ให้สอดคล้อง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ เนื่องจากมีการลดจำนวนคณะกรรมการ กสทช.ลงจาก 11 คนเหลือ 7 คน รวมถึงมีการปรับสายงานภายในสำนักงาน กสทช. ระหว่างการก่อสร้าง ส่งผลต่อรูปแบบและรายละเอียดของการก่อสร้าง ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อสำนักงาน กสทช. จึงสั่งให้หยุดโครงการก่อสร้าง และเจรจาเลิกสัญญา…”
ไม่อึ้งกิมกี่ ก็ไม่รู้จะให้เรียกว่าอะไร?
แค่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร ปรับลดจำนวนกรรมการ กสทช.ลง และปรับสายงานภายในองค์กรใหม่
ถึงกับต้อง “สั่งรื้อตึกท้ังหลัง” กันเลยหรือ?
ต้องถึงขั้นรื้อทิ้งและก่อสร้างตึกใหม่กันหรือไม่ ท่านประธาน “หมอไห่” และรักษาการเลขาธิการ (ตลอดศก) ที่เคารพ!
แค่ปรับโครงสร้างภายใน ถึงกับต้องสั่ง ให้ผู้รับเหมายุติการก่อสร้าง และเจรจาเลิกสัญญากันเลยหรือ?
มันใช่หรือ มันทำได้หรือ?
การจะยกเลิกสัญญาในลักษณะนี้ กสทช.สามารถดำเนินการได้เอง เพราะใช้เงินตัวเองก่อสร้าง ไม่ได้ใช้งบประมาณอย่างนั้นหรือ ?
ไม่ต้องหารือกระทรวงการคลัง-คณะ กก.พัสดุ หรือสำนักงานอัยการสูงสุดเลยหรือ?
ที่น่าแปลก!…ปกติผู้รับเหมาจะมีกำไรจากการดำเนินโครงการต่อเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ ส่งมอบและเบิกเงินงวดสุดท้ายไปแล้ว
การที่จู่ๆ ถูกบอกเลิกสัญญากลางครัน ทั้งที่เบิกเงินงวดมาเพียง 104 งวดจำนวน 1,598 ล้าน จาก 2,643 ล้าน
แถมเหตุผลในการบอกเลิกสัญญาก็เพียงเพราะต้องปรับเปลี่ยนห้องทำงานภายในอาคารใหม่ เท่านั้น
แบบนี้ก็ได้หรือ ? แบบนี้ไม่หือไม่อืออะไร ยอมเลิกสัญญาง่ายๆ แต่โดยดีเลยหรือ?
เป็นเรื่องที่ผิดปกติวิสัยของผู้รับเหมาหรือไม่?
เอื้อประโยชน์ต่อรับเหมาเอกชนหรือไม่?
