ร้อง ปปป. โดนอดีตนายพลตำรวจตรีกลั่นแกล้ง แจ้งความเท็จลักทรัพย์ฯ ตัดต้นยางพาราในที่ดิน ส.ป.ก. ของครอบครัว
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 พ.ค.68 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กรุงเทพฯ นายสุทธิ บัณฑูรนิพิท อายุ 67 ปี และ น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท อายุ 61 ปี สองพี่น้อง เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อร้องให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมและพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ่อไร่ จังหวัดตราด ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังถูกอดีตนายพลตำรวจตรี กลั่นแกล้งแจ้งความเท็จในข้อหาลักทรัพย์จากการตัดต้นยางพาราในที่ดิน ส.ป.ก. ของตนเอง
นายสุทธิ (พี่ชาย) เปิดเผยว่า ที่ดิน ส.ป.ก. เนื้อที่ 94 ไร่ดังกล่าว เป็นสิทธิครอบครองของนายนคร บัณฑูรนิพิทบิดาของตน ก่อนท่านจะเสียชีวิตได้กระจายสิทธิให้กับทายาท ประกอบด้วย นายสุทธิ บัณฑูรนิพิท, น.ส.ปลิดา บัณฑูรนิพิท , น.ส.อัครชา หรือ เขมจิรา บัณฑูรนิพิท โดยไม่เคยส่งมอบการครอบครองหรือสละสิทธิ หรือให้บุคคลอื่นเช่า ทายาททุกคนยังคงเสียภาษีบำรุงท้องที่มาโดยตลอด จนกระทั่งปี 2553 มีอดีตนายพลตำรวจตรีเกษียณราชการกับน้องชายได้เข้ามาติดต่อคนรับจ้างปลูกสับปะรด และต้นยางพารา โดยมีข้อตกลงด้วยวาจาว่าให้ทำการเกษตรเป็นเวลา 3 ปี โดยไม่มีการเก็บค่าเช่า และเมื่อครบกำหนด ต้นยางพาราทั้งหมดจะตกเป็นของเจ้าของที่ดินเพื่อแลกกับการไม่เก็บค่าเช่าหน้าดิน
“ปัจจุบันพวกผมและน้องๆ ไม่สามารถเข้าไปทำกินในที่ดิน ส.ป.ก. ของตัวเองได้ เพราะถูกอดีตนายพลตำรวจตรีคนดังกล่าวแจ้งความกลั่นแกล้งว่าไปลักทรัพย์ฯ เขา ทำให้พวกผมต้องมาพึ่งบารมีกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางให้ช่วยเหลือครอบครัวของเราในวันนี้” นายสุทธิ กล่าวด้วยความอัดอั้น
ทางครอบครัวเราได้ยื่นหนังสือร้องเรียนสอบถามไปยัง สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จังหวัดตราด มีหนังสือตอบกลับมาเมื่อวันที่ 24 เม.ย.68 ยืนยันว่าตนและพี่น้องทั้ง 3 คน เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ เขตปฏิรูปที่ดินดังกล่าว อีกฉบับแจ้งมาเมื่อ 25 เม.ย.68 ยืนยันว่า 2 พี่น้อง พลตำรวจตรีนั้น
-ยังไม่ได้รับอนุญาต ให้เช่าที่ดินจาก ส.ป.ก.
-ไม่พบข้อมูลว่า 2 พี่น้องพลตำรวจตรีนั้นเป็นผู้ได้รับ อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ ในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดตราด
-ซึ่งที่ดิน ส.ป.ก. ไม่สามารถอ้างการครอบครองปรปักษ์ได้ตามที่เขากล่าวอ้าง
ด้าน น.ส.เขมจิรา (น้องสาว) กล่าวเสริมว่า ก่อนที่ตนจะนำคนงานเข้าไปตัดต้นยางพาราในที่ดิน ส.ป.ก. ของครอบครัว ตนได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจไว้ที่ สภ.บ่อไร่ แล้ว จากนั้นจึงได้นำคนงานจำนวนหนึ่งเข้าไปทยอยตัดต้นยางพารา จนกระทั่งวันที่ 24 เม.ย.2568 เวลาประมาณ 10.20 น. อดีตนายพลตำรวจตรี ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อไร่ จำนวน 4 นาย มายังสวนยางพารา หมู่ 2 ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ซึ่งเป็นที่ดิน ส.ป.ก. ที่ครอบครัว ได้รับอนุญาตเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน มาจับกุมคนงานทั้งหมดรวมทั้งนายวฤทธิ์ อดีตผู้ ผู้ใหญ่บ้านที่ดูแลที่ดินดังกล่าว พร้อมยึดกุญแจรถ จยย.รวมทั้งต้นยางพารา จำนวน 49 ต้น ที่อยู่บนรถกระบะ และบนพื้นอีก 6 ต้นไปเป็นของกลาง โดยกล่าวหาว่าลักทรัพย์ของผู้มีอาชีพเกษตรกรรม ก่อนจะควบคุมคนงานและของกลางทั้งหมดไปที่ สภ.บ่อไร่ แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์ฯ ก่อนจะต่อรอง และปล่อยตัว โดยนายวฤทธิ์ และคนงานทั้งหมดได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
น.ส.เขมจิรา กล่าวด้วยความสงสัยว่า ตนมาทราบในภายหลักว่าตนเองได้ถูกแจ้งความกล่าวหาว่าลักทรัพย์ฯ ในที่ สปก.ของครอบครัวเราเองด้วย ส่วนต้นไม้ยางพาราที่เป็นของกลาง พนักงานสอบสวน สภ.บ่อไร่ ได้ให้นำไปขายแล้ว
“ดิฉันเห็นว่าตำรวจ สภ.บ่อไร่ ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ให้ความเป็นธรรมกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย จึงจำเป็นต้องมาร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจสอบสวนกลางในวันนี้” น.ส.เขมจิรา กล่าว
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้รับเรื่องร้องทุกข์ พร้อมสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อนำไปพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป















