วันอังคาร, พฤษภาคม 6, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายค้าบุหรี่เถื่อนข้ามชาติรายใหญ่

Related Posts

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายค้าบุหรี่เถื่อนข้ามชาติรายใหญ่

รวบชาวกัมพูชา 2 ราย พร้อมของกลาง 50,000 ซอง รัฐสูญเสียรายได้กว่า 3,000,000 บาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการประทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ. ว่าที่ พ.ต.อ.นฤพนธ์ กรุณา ผกก.2 บก.ปอศ. และ พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ.กรมสรรพสามิต โดย ดร.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต, ว่าที่ร้อยตรียงยุทธ ภูมิประเทศ รองอธิบดี รักษาการในตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ภาษีสรรพสามิต, นายสุเมธ ฤทธิ์เจริญ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม ,นายวิโรจน์รัตน์ แจ่มวรรณา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการตรวจสอบสรรพสามิต ,นางสาวปารณีย์ ขุนวงษ์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปราม 2 และ นายกฤตย์ ธรรมพิทักษ์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปราบปราม 6 พร้อมด้วย สายตรวจสรรพสามิตชุดที่ 6.2

เจ้าหน้าที่การยาสูบแห่งประเทศไทย โดย นายรักษ์ศักดิ์ อินทร์ปราบ รองผู้ว่าการด้านการจำหน่ายและบริการลูกค้า, นายวีรศักดิ์ แก้วลอยมา หัวหน้าสำนักป้องกันบุหรี่ผิดกฎหมาย, นายประเสริฐ เพ็ญไพจิตร พนักงานป้องกันและปราบปราม, น.ส.เสาวณีย์ สุวรรณโชติ พนักงานป้องกันและปราบปราม 7, นายวันฉัตร ลำเจียกเทศ พนักงานป้องกันและปราบปราม 6 และ นายธนงค์ นิธิธีรโชติ พนักงานป้องกันและปราบปราม 4
คณะผู้แทน บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส โดย มล.พงศ์ระพีพร อาภากร ผู้จัดการอาวุโส ด้านนโยบายภาษีและการค้าระหว่างประเทศ และ นางสาวรัฐสภา ทรัพย์เมือง หัวหน้าทีมด้านนโยบายภาษีและการปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พีระพัฒน์ สุทธเสนา สว.กก.2 บก.ปอศ., ร.ต.อ.นุศาสน์ เพชรเปี่ยมแสงงาม, ร.ต.อ.กษิดิ์พิชญ์ สุภาสูรย์รอง,ร.ต.ท.สุรเจตน์ ภู่ระหงษ์, ร.ต.ท.ชนกปกรณ์ กายูรวัฒน์, ร.ต.ต.คณาธิป
สงพิมพ์, ว่าที่ ร.ต.ต.กำพล ล้อมวงษ์ รอง สว.(ป.) กก.2 บก.ปอศ. ,ด.ต.เปรมวิชช์ บินตาสุระสีห์, ด.ต.นพดล
กั้งสกุล และ ด.ต.นิติธร ปานพวงแก้ว ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปอศ.

จับกุมตัวผู้ต้องหา ชาวกัมพูชา จำนวน 2 ราย

  1. Ms. Chiva Chuoy (จีวา) อายุ 35 ปี สัญชาติ กัมพูชา ผู้ต้องหาที่ 1 ดำเนินคดีในความผิดฐาน
    1.1)“ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ
    1.2) “ผู้ใดมีไว้ในครอบครองโดยไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วนหรือผู้ใดขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560
  2. Mr. Nak Khoeun (นะ) อายุ 35 ปี สัญชาติ กัมพูชา ผู้ต้องหาที่ 2 ดำเนินคดีในความผิดฐาน
    2.1) “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรฯ
    2.2) “ผู้ใดมีไว้ในครอบครองโดยไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วนหรือผู้ใดขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 และความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ฝ่าฝืนมาตรา 11 และมาตรา 18 อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522

พร้อมด้วยของกลาง

  1. รถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อ MG สีขาว จำนวน 1 คัน (พบบุหรี่ซุกซ่อนอยู่)
  2. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน เก๋งสองตอน ยี่ห้อ NISSAN จำนวน 1 คัน (พบบุหรี่ซุกซ่อนอยู่)
  3. บุหรี่ที่มีแหล่งกำเนิดมาจากต่างประเทศ แบ่งเป็น
    3.1 บุหรี่ ไทย จำนวน 16 ลัง (813 คอตตอน , 162,000 มวน)
    3.2 บุหรี่ ต่างประเทศ 86 ลัง (4,383 คอตตอน , 900,000 มวน)

สถานที่จับกุม บริเวณประตูด้านหลัง อาคารแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 4 ตำบลบึงชำอ้อ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี และนำตรวจค้นยังอาคารที่พักซึ่งเป็นห้องแถวชั้นเดียว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าที่ตั้ง ภายในสถานที่ เกิดเหตุ

พฤติการณ์ ด้วย กก.2 บก.ปอศ. ได้รับสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการสืบสวนติดตามพฤติกรรมกลุ่มขบวนการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายสินค้าโดยเฉพาะบุหรี่เถื่อนผิดกฏหมาย ที่ลักลอบจำหน่ายให้กับลูกค้าตามแพลตฟอร์มออนไลน์และตามสื่อช่องทางต่างๆ ซึ่งก่อนจับกุมในคดีนี้ กก.2 บก.ปอศ. ได้มีการจับกุมกลุ่มผู้ค้าบุหรี่รายย่อย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ พื้นที่ จ.สมุทรปราการ จากข้อมูลการสืบสวนพบว่าร้านค้าบุหรี่รายย่อยดังกล่าวมักจะสั่งบุหรี่เถื่อนมาจำหน่ายให้กับลูกค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์โดยส่งมาจากทางภาคใต้ และทางภาคตะวันออกของประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในคดีนี้ได้ข้อมูลที่มีความเชื่อมโยงและพบว่ามีผู้ค้ารายใหญ่ทาง ภาคตะวันออก ชื่อเล่นว่า “นายนะ” หรือ Mr. Nak Khoeun สัญชาติกัมพูชา มีพฤติการณ์จำหน่ายบุหรี่เถื่อนผ่านแพลตฟอร์ม facebook โดยมีโกดังเป็นที่พักของและแพคของในการจัดจำหน่ายให้กับลูกค้ารายย่อย มีที่ตั้งอยู่ที่บริเวณพื้นที่ จังหวัดปทุมธานี จึงได้ทำการสืบสวนติดตามพฤติกรรมมาโดยตลอด โดยได้มีการติดต่อล่อซื้อเป็นจำนวนหลายครั้ง ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา จนทราบแผนประทุษกรรม แล้วจึงแฝงตัวเป็นกลุ่มลูกค้า VIP เพื่อสั่งบุหรี่ในจำนวนที่มากขึ้น

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ล่อซื้อโดยสั่งบุหรี่ในจำนวนที่มากขึ้น โดยนายนะฯ ได้นัดหมายให้มารับในช่วงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 2 พ.ค.2568 บริเวณประตูด้านหลังอาคารแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 4 ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เมื่อมาถึงนายนะฯ ได้เปิดประตูให้รถยนต์ขนสินค้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามา จากนั้นได้มีการปิดประตูรั้วเพื่อไม่ให้นำรถออก เจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตเห็น รถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อ MG สีขาว และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อ NISSAN จอดหลบอยู่ในความมืด โดยมีผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย อยู่ในบริเวณดังกล่าว สังเกตในรถพบว่ามีกล่องบุหรี่วางอยู่เป็นจำนวนมากทั้ง 2 คัน ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำทีเข้าไปสอบถามและจะจ่ายเงินค่าบุหรี่ที่ได้สั่งซื้อ ผู้ต้องหาผิดสังเกตและพยายามจะหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุมในทันที ผลการตรวจค้นพบ บุหรี่ที่มีแหล่งกำเนิดมาจากต่างประเทศ ที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน เป็นจำนวนมาก จึงได้ขยายผลเข้าไปตรวจค้นยังอาคารที่พักภายในสถานที่เดียวกัน ซึ่งคาดว่าเป็นสถานที่เก็บบุหรี่เถื่อนผิดกฎหมายเพื่อจำหน่ายทางออนไลน์ จนนำไปสู่การตรวจยึดบุหรี่ทั้งของไทยและต่างประเทศกว่า 102 ลัง (5,198 คอตตอน , 1,062,600 มวน) คิดประมาณการค่าปรับกว่า 50 ล้านบาท


จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบบุหรี่จำนวนหนึ่งที่น่าเชื่อว่าเป็นบุหรี่ไทยเพื่อการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศและลักลอบวนกลับมาจำหน่ายในประเทศ ,บุหรี่ไทยที่มีการปลอมเครื่องหมายการค้า จำนวนกว่า 16 ลัง (813 คอตตอน ,162,600 มวน) และบุหรี่ต่างประเทศที่มีการละเมิดเครื่องหมายการค้า และบุหรี่ต่างประเทศ ที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน รวมจำนวนกว่า 86 ลัง (4,385 คอตตอน , 900,000 มวน) จึงได้แจ้งสิทธิและข้อกล่าวหา จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น จาการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1,2 ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันนำบุหรี่เถื่อนมาจำหน่ายจริง โดยได้ร่วมกับเครือญาติของผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา และพักอาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชา ลักลอบขนบุหรี่ข้ามแดนมาให้ ผ่านช่องทางธรรมชาติไทย-กัมพูชา อ.คลองหาด จ.สระแก้ว โดยจะมีการซุกซ่อนมากับรถยนต์บรรทุกผลไม้ หรือหากมีการสั่งของเป็นจำนวนมากก็จะจัดรถเพื่อไปส่งให้กับลูกค้าเพื่อเป็นการเฉพาะ จากนั้นจะนำบุหรี่มาซุกซ่อนไว้ยังที่พักในที่พักที่เกิดเหตุดังกล่าวเพื่อเป็นจุดแพคของและจัดส่งให้กับลูกค้า โดยนายนะฯ ผู้ต้องหาที่ 2 ทำหน้าที่เป็นแอดมินเพจและหาลูกค้า ส่วนนางจีวาฯ ผู้ต้องหาที่ 1 ทำหน้าที่สั่งออร์เดอร์บุหรี่จากเครือญาติในประเทศกัมพูชา ซึ่งจะได้กำไรจากการจำหน่าย คอตตอนละ 20-50 บาท โดยทำมาแล้วประมาณ 2 ปี ยังไม่เคยถูกจับกุมตัวมาก่อน

เตือนภัย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ
ได้ดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก ในการป้องกันและปราบปรามสินค้าหนีภาษี เลี่ยงภาษี โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร และภาษีสรรพสามิต เป็นเหตุให้รัฐไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ และได้รับความเสียหาย ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแส ได้ที่ Website : https://cib.go.th/ FB : ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ สามารถร้องเรียน แจ้งเบาะแส การกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต ได้ที่ สายด่วนกรมสรรพสามิต 1713

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts