วันนี้ (6 พ.ค 68) เวลา 13.30 น. ที่ ตึกกองปราบอาคารประชาอารักษ์ (บก.ป.) พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ. วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ. ร่วมกับ ดร.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต และนายรักษ์ศักดิ์ อินทร์ปราบ รองผู้ว่าการด้านการจัดจำหน่ายและบริการลูกค้าเป็นตัวแทนจากการยาสูบแห่งประเทศไทย และคณะผู้แทน บริษัท ฟิลลิป มอร์ริสได้แถลงผลการ เปิดปฏิบัติการสลายเครือข่ายบุหรี่เถื่อนข้ามชาติรายใหญ่ ทำให้รัฐสูญเสียรายได้กว่า 3 ล้านบาท
พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ กล่าวว่า ได้จับกุมผู้ต้องหา ชาวกัมพูชา จำนวน 2 ราย ในฐานความผิด ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่า เป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่มิได้ผ่านพิธีการศุลกากรอันเป็นความผิดตามพ.ร.บ. ศุลกากรฯ และผู้ใดมีไว้ครอบครองโดยไม่มีสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วนหรือผู้ใดขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วนอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 และความผิดฐาน เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฝ่าฝืนมาตรา 11 และมาตรา 18 อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 และได้ตรวจยึดของกลาง เป็นรถยนต์กระบะบรรทุกยี่ห้อ MG สีขาว จำนวน 1 คัน และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน เก๋งสองตอน ยี่ห้อ NISSAN จำนวน 1 คัน จำนวนและบุหรี่ที่มีแหล่งกำเนิดมาจากต่างประเทศแบ่งเป็น บุหรี่ไทยจำนวนหกลัง 813 คอตตอน 162000 มวน และบุหรี่ต่างประเทศ 86 ลัง 4383 คอตตอน 900,000 ม้วน สถานที่จับกุมบริเวณประตูด้านหลัง อาคารแห่งหนึ่งหมู่ที่ 4 ตำบลบึงชำอ้อ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี และนำตรวจค้นอย่างอาคารที่พักซึ่งเป็นห้องแถวชั้นเดียวซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าที่ตั้งภายในสถานที่เกิดเหตุ
พฤติการณ์ดังกล่าว กลุ่มขบวนการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายสินค้าโดยเฉพาะบุหรี่เถื่อนผิดกฎหมายที่ลักลอบจำหน่ายให้กับลูกค้าตามแพลตฟอร์มออนไลน์และตามสื่อช่องทางต่างๆซึ่งก่อนจับกลุ่มในคดีนี้ได้มีการจับกุมผู้ค้าบุหรี่รายย่อยในพื้นที่กรุงเทพและพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการจากข้อมูลสืบสวนพบว่าร้านค้าบุหรี่รายย่อยดังกล่าวมักจะสั่งบุหรี่เถื่อนมาจำหน่ายให้กับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ส่งมาจากภาคใต้และภาคตะวันออกของประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในคดีนี้ได้ข้อมูลที่มีความเชื่อมโยงและพบว่ามีผู้ค้ารายใหญ่ทางภาคตะวันออก ชื่อเล่นว่านายนะ หรือ Mr. Nak Khoeun สัญชาติกัมพูชา มีพฤติการณ์จำหน่ายบุหรี่เถื่อนผ่านแพลตฟอร์ม ออนไลน์ โดยมีโกดังเป็นที่พักของและแพ็คของในการจัดจำหน่ายให้กับลูกค้ารายย่อยมีที่ตั้งอยู่ที่ประเทศพื้นที่จังหวัดปทุมธานีโดยได้มีการติดต่อล่อซื้อเป็นจำนวนหลายครั้งตลอดระยะเวลา 1 เดือน ที่ผ่านมาจนทราบแผนทุษกรรมจึงแฝงตัวเป็นกลุ่มลูกค้า VIP เพื่อสั่งบุหรี่ในจำนวนที่มากขึ้น
สอบถามคำให้การเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันนำมาจำหน่ายจริงโดยได้ร่วมกับเครือญาติของผู้ต้องหาที่หนึ่งซึ่งเป็นชาวกัมพูชาและพักอาศัยอาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชาลักลอบขนข้ามแดนมาให้ผ่านช่องทางธรรมชาติระหว่างไทยและกัมพูชา ที่จังหวัดสระแก้ว โดยมีการซุกซ่อนมากับรถยนต์บรรทุกผลไม้ และเจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าอาจจะมีคนไทยเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงได้จับกุมและดำเนินคดีต่อไป
