วันอาทิตย์, พฤษภาคม 25, 2025
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบยกแกงค์ผู้ต้องหาหมายแดงชาวเวียดนามหลังก่อเหตุตุ๋นเพื่อนร่วมชาติ กว่า 300,000,000 เหรียญสหรัฐ

Related Posts

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบยกแกงค์ผู้ต้องหาหมายแดงชาวเวียดนามหลังก่อเหตุตุ๋นเพื่อนร่วมชาติ กว่า 300,000,000 เหรียญสหรัฐ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป,พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป.,ว่าที่ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป.,พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง,พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ,พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร,พ.ต.ท.ศิษฎ์ พูลวงศ์ รอง ผกก.3 บก.ป เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กิตติภพ ทองเพชร,พ.ต.ท.ศราวุธ ทองน้อย,พ.ต.ท.พัฒษพงศ์
เสณีแสนเสนา , พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป. พ.ต.ต.วิชิต ศรีทอง สว.กก.3 บก.ป.,ร.ต.อ.ดวง ขาวสะอาด,ร.ต.อ.เลอสันต์ พรมชื่น ร.ต.อ.ภณวริษ ทองประกาศิต รอง สว.กก.3 บก.ป.,พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ป.


ร่วมกันจับกุม
​1.นาง NGO สัญชาติ เวียดนาม อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับตำรวจสากล (INTERPOL) ที่ A2159/2- 2025 แนบท้ายหมายจับตำรวจนครบาลฮานอย ที่ 20647/QĐTN-CSHS ลงวันที่ 10 ธันวาคม 2567ข้อหา “ไม่แจ้งความเกี่ยวกับการกระทำผิด (Misprision)”
​​2.นาย Ta สัญชาติ เวียดนาม อายุ 38 ปี ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”
​​3.นาย Trong สัญชาติ เวียดนาม อายุ 41 ปี ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด”
​สถานที่จับกุม ห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากทางการประเทศเวียดนามได้ประสานขอความร่วมมายังทางการไทย เพื่อขอความร่วมมือให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มขบวนการหลอกลวงร่วมลงทุนเทรดหุ้น ซึ่งได้ก่อเหตุหลอกลวงชาวเวียดนามให้ร่วมลงทุน โดยมีพฤติการณ์เปิดเว็บไซต์โฆษณาเชิญชวนให้คนลงทะเบียนลงทุนเทรดหุ้นผ่านแพลตฟอร์มซื้อขาย Forex (ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ) หรือ คริปโต โดยมีผลตอบแทนสูงผิดปกติ เช่น 20%-30% ต่อเดือนและโอนเงินเข้ามาในบัญชีผ่านทางช่องทางที่กำหนด วิธีการโฆษณาเชิญชวนจะใช้ใช้บุคคลสาธารณะ-อินฟลูเอนเซอร์ชาวเวียดนาม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดความสนใจ มีการจัดการสัมนาเชิญชวนผู้คนเข้าร่วมฟังแผนการลงทุน โดยอ้างว่าไม่มีความเสี่ยง มีการคืนทุนเร็ว และสามารถหาคนมาร่วมเพิ่มเพื่อรับ “ค่าคอมมิชชัน” เหมือนแชร์ลูกโซ่ เมื่อมีผู้หลงเชื่อก็จะดำเนินการผ่านธุรกรรมลักษณะเหมือนตลาดหุ้น (Stock Market) ซึ่งมีรูปแบบหลอกลวงคือให้เหยื่อเทรดหุ้นด้วยเงินจำนวนน้อยก่อนถอนเงินได้จริงเพื่อสร้างความเชื่อมั่น จากนั้นค่อยๆ ชักชวนให้ลงทุนเพิ่มขึ้น โดยใช้โครงสร้างการปันผลกำไรแบบเกินจริงเข้าล่อใจเหยื่อเมื่อเหยื่อหลงเชื่อและลงทุนเป็นเงินจำนวนที่มากขึ้น กลุ่มขบวนการดังกล่าวจะตัดขาดการติดต่อกับเหยื่อทันที ซึ่งการก่อเหตุครั้งนี้มีชาวเวียดนามเสียหายกว่า 2,600 ราย มีมูลค่าความเสียหายกว่า 300,000,000 เหรียญสหรัฐ กลุ่มขบวนการดังกล่าวมีแกนนำชาวตุรกีร่วมกับแกนนำชาวเวียดนามอีก 35 คน มีลักษณะการกระทำความผิดในรูปแบบองค์กร มีการวางแผนแบ่งหน้าที่การทำอย่างชัดเจนมีเป้าหมายหลักเป็นคนเวียดนาม และมีการตั้งที่ทำการศูนย์ปฏิบัติการในการหลอกลวงทั่วประเทศเวียดนาม จำนวน 44 ศูนย์ปฏิบัติการ มีพนักงานกว่า 1,000 คน ทั่วทั้งในกรุงฮานอย โฮจิมินห์ซิตี้ ดานัง หอยอันและเมืองสำคัญอื่นๆ นอกจากนี้ยังปฏิบัติการในประเทศ เช่นในกรุงพนมเปญประเทศกัมพูชา อีกด้วย
ซึ่งทางตำรวจนครบาลเวียดนาม ทำการสืบสวนทราบว่า นาง NGO หนึ่งในกลุ่มขบวนการคนสำคัญ ซึ่งถูกตำรวจนครบาลฮานอยออกหมาย ที่ 20647/QĐTN-CSHS ลงวันที่ 10 ธันวาคม 2567ข้อหา “ไม่แจ้งความเกี่ยวกับการกระทำผิด (Misprision)” และได้ประสานตำรวจสากล (INTERPOL) ให้ออกหมายประกาศสืบจับที่ A2159/2- 2025 นั้น ปัจจุบันได้หลบหนีเข้ามาอยู่ที่ประเทศไทย จึงได้ประสานขอความร่วมมือมายังสถานทูตไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมดังกล่าว


ต่อมากองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมนาง NGO เพื่อส่งตัวให้ทางการเวียดนามนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมทั้งดำเนินการเพิกถอนหนังสือเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทยของนาง NGO ทำให้ไม่สามารถอยู่ในประเทศไทยได้ตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 ฯ และชุดสืบสวนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้สืบสวนทราบว่านาง NGO หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ โรงแรมแห่งหนึ่ง แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร จึงได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบห้องพักดังกล่าว จากการเข้าตรวจสอบพบนาง NGO พักอาศัยอยู่ภายในห้องดังกล่าวจริง และพบชายชาวเวียดนาม จำนวน 2 ราย คือ 1.นาย Ta และ 2.นาย Trong อยู่ภายในห้องดังกล่าวด้วย ซึ่งทั้งสองคนอ้างว่าเป็นคนคุ้มกัน (Bodyguard) ประจำตัวนาง NGO จากการตรวจสอบนาย Ta และ นาย Trong พบว่าไม่ได้ขออนุญาตพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยตามกฎหมาย จึงจับกุมตัวทั้งสองคนส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนนาง NGO จากการสอบสวนรับสารภาพว่าเป็นผู้ร่วมก่อเหตุจริง โดยทรัพย์สินที่ได้จากการหลอกลวงดังกล่าว หัวหน้าขบวนการจะเป็นบริหารส่วนตนได้ผลประโยชน์เป็นส่วนแบ่ง โดยได้นำไปฟอกเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ประเทศเวียดนาม ส่วนเงินที่ตนใช้จ่ายในประเทศไทย ตนจะให้คนของตนโอนเงินจากบัญชีม้าที่ประเทศเวียดนาม โอนเข้ามายังบัญชีกลุ่มคนเวียดนามในประเทศไทยเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดไทย แล้วนำมามอบให้ตนครั้งละประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของทางการไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงควบคุมตัวนาง NGO มาทำการสอบสวนละเอียดและนำเข้าสู่กระบวนการส่งมอบตัวให้กับทางการเวียดนามเพื่อดำเนินการตามขั้นทางกฎหมายต่อไป


จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสามรายให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ว่าที่ พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป.
โทร.086-3425666

“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts