โดยเหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา บนถนนซอย 5 สาย 13 ตำบลนิคมพัฒนา อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยสยามร่วมใจปู่อินทร์ รับแจ้งจากชาวบ้านในหมู่บ้านว่า มีเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและขว้างปาระเบิดใส่กันเสียงระเบิดดังสนั่น สร้างความตกใจให้กับชาวบ้านซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และกำลังหลับนอน หลังเสียงระเบิดสงบลงชาวบ้านคิดว่ามีผู้บาดเจ็บจึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย และพากันออกมาดูและพบเศษวัตถุระเบิดทำเองกระจายเกลื่อนถนน และยังไม่ระเบิดอีก2 ลูก อยู่บนถนนและอีก 1 ลูก ถูกขว้างปาเข้ามาบริเวณหน้าห้องเช่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำยางรถยนต์มาครอบไว้ และแจ้งตำรวจ สภ.นิคมพัฒนา มาตรวจสอบ
เบื้องต้นนายธิติวุฒิ ( นาสมมุติ) อายุ 17 ปี (เสื้อคอกลมสีม่วง) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมาตนเองและเพื่อน 2 คน ไปปฐมศึกษาที่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในจังหวัดระยอง หลังจากปฐมศึกษาเสร็จแล้ว จึงเดินมาที่ลานจอดรถ เพื่อขับขี่
รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ระหว่างนั้นสังเกตุเห็นนักศึกษา 2 คน หันมองตนเองกับเพื่อน พร้อมกับถามว่าตนเองเบิ้ลเครื่องยนต์เสียงดังทำไม แต่ตนเองกับเพื่อนไม่ได้สนใจ จึงขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากวิทยาลัย พากันกลับบ้าน
และเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา นักศึกษาคู่กรณีได้ทักเฟซ และนัดเคลียร์ปัญหากันบริเวณสามแยกไปแดง ซอย 5 สาย 13 ที่เกิดเหตุ จากนั้นตนเองจึงชักชวนเพื่อนประมาณ 10 คน มาเป็นเพื่อนด้วย และเมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบนายบอส และนายเฟส คู่กรณี มากับพวกประมาณ 10 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ดักรออยู่ก่อนแล้วและเมื่อตนเอง มาถึงที่เกดเหตุ แต่ยังไม่ได้พูดคุยกัน นายบอส และพวกจึงขว้าง
ระเบิดที่ผลิตเองใส่ตนเองและเพื่อนหลายลูก พร้อมกับใช้มีดสปาต้า ไล่ฟัน แต่ตนเองและเพื่อนขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีได้ทัน จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดขณะที่นาย เทพนที อ่อนละมูล อายุ23ปี ( เสื้อลายเขียว) ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ต้องการให้ตำรวจจับกลุ่มวัยรุ่นที่ขว้างระเบิด และต้องการให้วัยรุ่นมาเก็บระเบิดที่ขวางเข้ามาในหมู่บ้าน เกรงคนในบ้านจะเดินไปเยียบระเบิดที่อยู่หน้าบ้านและอาจได้รับอันตรายได้
และทางด้านกู้ภัยสยามระยอง ที่มาในจุดเกิดเหตุ บอกกับทางอมรินทร์ว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งมาตรวจสอบ ไม่พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ มีแต่เศษระเบิดแสวงเครื่องกระจายตามบริเวณถนน และยังมีระเบิดชนิดแสวงเครื่อง ตกอยู่บนถนนที่สามารถพร้อมจะระเบิดได้ตลอดเวลา ตนจึงนำยางรถยนต์มากั้นไว้ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพิสูจน์หลักฐาน และนำไปเก็บไว้ที่ปลอดภัยต่อไป
