ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศตคม.ตร.) และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้อำนวยการสั่งการของ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช./ผอ.ศตคม.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์, พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส, พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.จตุรภัทร์ ภิรมย์แก้ว และ พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ปิยะสมบูรณ์ รอง ผบก.ปคม. สั่งการให้เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.ปคม. นำโดย ว่าที่ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม., พ.ต.ท.ชัยชนะ สุริยวงค์, พ.ต.ท.ณัฏฐพัชร์ งามประดิษฐ์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.๑ บก.ปคม., พ.ต.ท.นิติ ด่านไพบูลย์, พ.ต.ท.เอกรณการ นาคนิยม รอง ผกก.1 บก.ปคม., ว่าที่ พ.ต.ท.ธนกร จาวรุ่งวณิชสกุล, ว่าที่ พ.ต.ท.สุรศักดิ์ หญีตบึ้ง, ว่าที่ พ.ต.ต ภาณุพันธ์ ฤทธิเดช, ว่าที่ พ.ต.ต.พศวัต ศรีสุขโข และว่าที่ พ.ต.ต.อาวุธ ทิพย์วงศา สว.กก.1 บก.ปคม.
ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 7 ราย ดังนี้
1. นายสุนันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 3318/2568 ลงวันที่ 9 มิ.ย.68
2. นางสาวภัทรียา (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 3319/2568 ลงวันที่ 9 มิ.ย.68
3. นายนวพล (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 3320/2568 ลงวันที่ 9 มิ.ย.68
4. นายยุคลธร (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 3321/2568 ลงวันที่ 9 มิ.ย.68
5. นายเสฎฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 3322/2568 ลงวันที่ 9 มิ.ย.68
6. นายกรชนก (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 3323/2568 ลงวันที่ 9 มิ.ย.68
7. นายมานะ (สงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 3324/2568 ลงวันที่ 9 มิ.ย.68
ในข้อหา
1.ร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุ หรือสื่อลามก โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี
2.ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก
3. เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิงแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม โดยเป็นการกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี
4. ร่วมกันเพื่อประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้นำเข้า หรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายด้วยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก
5. ร่วมกันประกอบการค้าหรือมีส่วนร่วม หรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสงอวดแก่ประชาชนหรือให้เช่าสื่อลามกอนาจารเด็ก
6. ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย
7. ร่วมกันกระทำด้วยประการใด บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตน ไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด กระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก ให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทน หรือเพื่อการใด
และร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 4 ราย ดังนี้
1. นางสาวเพ็ญนภา (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 3316/2568 ลงวันที่ 9 มิ.ย.68
2. นางสาวกรชวัล (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 3315/2568 ลงวันที่ 9 มิ.ย.68
3. นางสาวภัคจิรา (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 3317/2568 ลงวันที่ 9 มิ.ย.68
4. นางสาวนงนุช (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 3325/2568 ลงวันที่ 9 มิ.ย.68
ในข้อหา
1. นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
2.เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้เข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก
3.ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น
ตรวจค้นสถานที่จำนวน 6 แห่ง ดังนี้
1. บ้านเลขที่ 106 บ้านบ่อดอกซ้อน หมู่ 8 ต.พระซอง อ.นาแก จว.นครพนม
2. บ้านเลขที่ 433/1 หมู่ 10 ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จว.นครพนม
3. บ้านเลขที่ 73/1 หมู่ 5 ต.วังชะโอน อ.บึงสามัคคี จว.กำแพงเพชร
4. บ้านเลขที่ 29/169 หมู่ 3 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จว.ปทุมธานี
5. บ้านเลขที่ 153/1 อู่ซ่อมรถ หมู่ 3 ถ.เทพารักษ์ กม.3 ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ จว.สมุทรปราการ
6. บ้านเลขที่ 157/1 หมู่ 14 ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี จว.อุบลราชธานี
พร้อมตรวจยึดของกลาง ดังนี้
- โทรศัพท์มือถือ จำนวน 17 เครื่อง
- คอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่อง
- คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค จำนวน 1 เครื่อง
- แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ จำนวน 3 เครื่อง
- หน้าจอคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 จอ
- สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 3 เล่ม
- ไฟสำหรับแสดงไลฟ์สด จำนวน 4 ชุด
- ชุดคอสเพลย์ใช้แสดงไลฟ์สด จำนวน 2 ชุด
- อวัยวะเพศชายเทียม จำนวน 3 อัน
พฤติการณ์ตามนโยบาย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช./ผอ.ศตคม.ตร. และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ บก.ปคม.กวาดล้างอาชญากรรม โดยเฉพาะการค้ามนุษย์และการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กและเยาวชน ซึ่งที่ผ่านมา บก.ปคม.ได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดในคดีค้ามนุษย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงการค้ามนุษย์ในรูปแบบการผลิตหรือเผยแพร่สื่อลามกเด็ก โดยมีเด็กและผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อจากการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบดังกล่าว และในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กลุ่มผู้กระทำความผิดเปลี่ยนรูปแบบวิธีการให้มีความสลับซับซ้อนไปอยู่ในช่องทางออนไลน์ โดยใช้สื่อโซเชียลมีเดียที่เข้าถึงตัวเด็กและเยาวชนได้ง่ายในการกระทำความผิด
โดยเมื่อประมาณเดือน เม.ย.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการสืบสวน กรณีตรวจสอบพบแอพพลิเคชัน Discord ชื่อเซิร์ฟเวอร์ “Monarch V2” หรือ “Monarch” มีการนำเด็กสาวที่น่าเชื่อว่าอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนหลายราย มาไลฟ์สดในลักษณะลามกอนาจาร ผ่านช่องของเซิร์ฟเวอร์ และมีการเรียกเงินจากผู้เข้าชม ในลักษณะแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่สื่อลามกเด็ก
จึงได้เร่งทำการสืบสวนและตรวจสอบโดยละเอียด จนพบว่า แอพพลิเคชัน Discord เป็นช่องทางสำหรับการติดต่อหรือพูดคุยเป็นกลุ่ม ซึ่งโดยปกติแล้วเด็กและเยาวชนจะใช้เป็นช่องทางสำหรับเล่นเกมหรือพูดคุยกันในกลุ่มเพื่อน แต่กลุ่มผู้กระทำความผิดกลับใช้เป็นเครื่องมือสร้างในการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กหญิง ภายใต้ชื่อเซิร์ฟเวอร์ “Monarch V2” หรือ “Monarch” โดยมีสมาชิกติดตามมากถึง 117,872 คน จึงได้ทำการสืบสวนต่อไปจนพบว่า เซิร์ฟเวอร์นี้มีการจัดการอย่างเป็นระบบ มีการแบ่ง เป็นหมวดหมู่ต่างๆภายในเซิร์ฟเวอร์ โดยหมวดหมู่ที่พบการกระทำความผิดชื่อ “NIGHTCLUB” และมีการแบ่งช่องย่อยสำหรับบริหารจัดการระบบการไลฟ์สด ประกอบด้วย
- ช่องตารางงาน : สำหรับประกาศคิวไลฟ์สดของเด็กสาวแต่ละคน
- ช่องประกาศสิบแปดบวก : ใช้โพสต์ภาพวาบหวิวเพื่อโฆษณาชวนเชื่อ
- ช่อง NIGHTCLUB 01 : เป็นหมวดหมู่สาธารณะ ใช้แสดงภาพไลฟ์สดเพื่อเรียกผู้เข้าชม โดยให้เด็กสาวโชว์เรือนร่างบางส่วน พร้อมมีดีเจคอยพูดปลุกเร้าให้สมาชิกเกิดอารมณ์ทางเพศ และอยากจ่ายเงินเพื่อซื้อบัตรเข้ากลุ่มลับ
- ช่องหมวดหมู่ส่งสลิปซื้อบัตร : เมื่อสมาชิกสนใจ จะต้องโอนเงิน “ซื้อบัตรลับ” แล้วส่งภาพสลิปหลักฐานการโอนเงิน มาที่หมวดหมู่นี้เพื่อรอการอนุมัติเข้ากลุ่มลับ
ซึ่งเมื่อแอดมินตรวจสอบสลิปการโอนเงินเรียบร้อยแล้ว จะได้รับสิทธิ์เข้าสู่หมวดหมู่ลับ “PRIVATE NIGHTCLUB” ซึ่งเป็นหมวดหมู่โชว์การแสดงลามกอนาจารเต็มรูปแบบ ทั้งการช่วยตัวเอง หรือแม้กระทั่งการมีเพศสัมพันธ์โชว์
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. จึงได้แฝงตัวเข้าไปชมไลฟ์สดในช่องดังกล่าวจำนวนหลายครั้ง จนพบว่า กลุ่มผู้กระทำความผิดมีพฤติกรรมหลอกลวงสมาชิกที่เข้าชม ด้วยกลอุบาย “ปั่นยอด TOP1” โดยจะประกาศว่าใครที่โอนเงินสนับสนุนมากที่สุดในการไลฟ์สดแต่ละครั้ง จะได้รางวัลใหญ่คือการนัดเจอและมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวคนที่ไลฟ์สดนั้น แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงการตบตา เพราะเมื่อมีผู้เข้าชมโอนเงินเข้ามาเพื่อชิงตำแหน่ง TOP1 แล้ว กลุ่มผู้กระทำความผิดจะสั่งการให้ทีมงานซึ่งเป็นบัญชีม้าในเครือข่าย โอนเงินแข่งเพื่อปั่นราคาให้สูงขึ้นไปอีก จนผู้เข้าชมคนนั้นยอมแพ้ไปเอง และเงินที่โอนมาแล้วทั้งหมดจะไม่คืนให้ เช่น เมื่อวันที่ 27 เม.ย.68 ผู้เข้าชมรายหนึ่งได้โอนเงินไปถึง 141,456 บาท แต่ก็ถูกบัญชีม้าของของกลุ่มผู้กระทำความผิดโอนทับด้วยยอดเงินที่มากกว่าในจำนวนเงิน 144,000 บาท
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าบัญชีธนาคารของผู้กระทำความผิดรายหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ดูแลเซิร์ฟเวอร์ มีการรับเงินตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.68 – 12 พ.ค.68 จำนวน 7,803 รายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,125,478.35 บาท โดยรายการที่โอนเงินเข้ามานั้น เป็นยอดเงินจากการซื้อบัตรลับเพื่อเข้าดูช่อง “PRIVATE NIGHTCLUB” ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทั้งเด็กสาวทำการไลฟ์สดลามกอนาจาร
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังทำการสืบสวน จนสามารถพิสูจน์ตัวเด็กหญิงที่ไลฟ์สดในช่อง Discord ดังกล่าวได้จำนวน 6 ราย โดยได้เข้าช่วยเหลือเด็กหญิงคนหนึ่งอายุ 17 ปี เป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์แล้วจำนวน 1 ราย โดยเด็กหญิงได้ให้การว่า ถูกบุคคลที่รู้จักกันในแอพพลิเคชั่น Discord รายหนึ่ง ชักชวน ให้มาทำงานไลฟ์สดแลกเงิน โดยแอดมินจะหักค่าหัวคิว หากเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จะถูกหัก 50% โดยอ้างว่าเป็น “ค่าความเสี่ยง” แต่หากอายุเกิน 18 ปี จะหัก 25% ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้กระทำความผิดรู้อยู่แล้วว่ากำลังแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กและเยาวชน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายค้นและหมายจับ โดยได้เข้าตรวจค้นสถานที่จำนวน 6 แห่ง สามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้จำนวน 7 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันค้ามนุษย์ โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่สื่อลามกเด็กฯ” และความผิดอื่น ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังได้จับกุมกลุ่มหญิงอายุเกินกว่า 18 ปี ผู้ทำการไลฟ์สดและได้รับเงินเป็นผลประโยชน์จากการ
ไลฟ์สดดังกล่าว ในความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะ อันลามกฯ” และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้อีกจำนวน 4 ราย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
